พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 ว่า ช่วงนี้ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน ทำให้ไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้น โดยสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี ในช่วงฤดูนี้ก็คือ ความประมาทของพ่อแม่ผู้ปกครองในการดูแลเด็ก ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น การลืมเด็กไว้ในรถจนเสียชีวิต หรือการจมน้ำตายของลูกหลาน ที่ลงไปเล่นน้ำเหล่านี้  ผมยกเป็นตัวอย่างขึ้นมาเตือนไว้ก่อน อยากให้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนขับรถตู้รับส่งนักเรียน ผู้ปกครอง พ่อแม่  ผู้คนรอบข้าง ได้สังเกต และก็ดูแลซึ่งกันและกันให้เด็ก ๆ ของเรานั้นอยู่ในสายตา โดยขอให้ผู้ปกครอง ผู้ใหญ่มีสติตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ขณะที่ในภาพรวมของประเทศ สิ่งที่มาพร้อมกับฤดูร้อนนี้ก็คือ “ภัยแล้ง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่นอกเขตชลประทาน หรือแม้กระทั่งในเขตชลประทานที่ดูเหมือนจะมีน้ำมากเก็บกักน้ำไว้ได้ แต่ก็ไม่มากนัก โดยระบบส่งกระจายน้ำที่ยังไม่สมบูรณ์ มีทั้งสร้างไม่เสร็จ สร้างไม่ได้ หรือประชาชนไม่ยินยอมให้ทางผ่าน อีกเรื่องคือปัญหาหมอกควัน ในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ และจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งได้เร่งหารือร่วมกันในการแก้ไขปัญหาในระดับภูมิภาคไปแล้วนั้น จะต้องอาศัยระยะเวลา เนื่องจากเป็นการร่วมมือกันของหลายภาคส่วน ในหลายด้าน และหลายพื้นที่ เพื่อหาวิธีแก้ไข ในส่วนของเรื่องน้ำนั้น รัฐบาลได้ออกมาตรการต่าง ๆเพื่อเตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว ทั้งในด้านการพยายามวางรากฐาน ขั้นตอนของการปฏิบัติ ซึ่งจะต้องขอความร่วมมือจากประชาชนให้การรับฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ และจากส่วนกลาง  และพร้อมให้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งนี้ในการทำงานเพื่อป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตนต้องขอยกตัวอย่าง และชื่นชมในการทำงานของพลังมวลชนกลุ่มหนึ่ง ที่ถูกจัดตั้งโดยใช้กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี เป็นกลไกในการสร้าง “พลังเยาวชน” เป็น “หน่วยลูกเสือราชประชานุเคราะห์” ในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 58 แห่ง ทั่วประเทศ สำหรับการดำเนินการดังกล่าว ตนเห็นว่าเป็นการน้อมนำ “ศาสตร์พระราชา”ของในหลวงรัชกาลที่  9 มาปรับใช้ ซึ่ง นอกจากจะช่วยให้เด็กนักเรียน ทำตัวไม่เป็นภาระของพ่อแม่แล้ว ยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ใช้ความสามารถของตนเองในการดูแลตัวเองและช่วยเหลือผู้อื่น ในสถานการณ์ต่างๆ ได้อีกด้วย อาทิเช่นที่ผ่านมาช่วงปลายปีที่แล้วก็เกิดอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ หน่วยลูกเสือราชประชานุเคราะห์ได้ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยเป็นกำลังสำคัญในการจัดอาหารประกอบเลี้ยงและแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัย รวมถึงขนย้ายสิ่งของ และทำความสะอาดบ้านเรือนของผู้ประสบภัยหลังน้ำลด ซึ่งตนอยากให้พวกเราช่วยกันสร้างจิตสำนึก อุดมการณ์ เผื่อแผ่ แบ่งปัน จิตสาธารณะด้วยนะครับ สำหรับคุณสมบัติของหน่วยลูกเสือราชประชานุเคราะห์ ก็ได้แก่ การเป็นคนดีมีคุณธรรม, มีระเบียบวินัย, มีความสามัคคีและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ที่สำคัญคือ “มีจิตอาสา มีจิตสาธารณะ” พร้อมที่จะทำประโยชน์หรือบรรเทาสาธารณภัยให้แก่ส่วนรวม ตนเห็นว่าสิ่งเหล่านี้ถือเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับเยาวชนรุ่นใหม่ อยากให้เป็นแบบอย่างให้กับเยาวชนและกลุ่มพลังอื่น ๆ อาทิเช่นนักศึกษาอาชีวะ ที่ตนเชื่อว่ามีศักยภาพอยู่แล้วมากมาย หากได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติม ให้ทำกิจกรรมอื่น ๆอีกด้วย ที่สร้างสรรค์ เพื่อสังคม เพื่อส่วนรวม ในช่วงปิดภาคเรียน เราก็จะลดปัญหาต่างๆไปได้อีกมากมาย อาทิเช่น งานจราจร งานรักษาความสะอาด งานมัคคุเทศก์ งานซ่อมแซมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ งานซ่อมแซมบ้านเรือน จากพายุฤดูร้อน หรืองานจิตอาสาอื่นๆ เป็นต้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่ตนได้กล่าวมาเป็นการช่วยให้ประเทศไทยของเรานั้นมี “พลเมืองดี” มีพลังบริสุทธิ์ที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และพร้อมที่จะช่วยกันพัฒนาประเทศ จึงอยากขอให้ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนช่วยกันดูแลเยาวชนเหล่านี้ด้วย