ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุสาหกรรม แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยระบุว่าในวันที่ 28 มี.ค.นี้ประเทศไทยจะมีชุดมาตรการดึงดูดการลงทุนผลิตรถไฟฟ้าในประเทศไทยครบถ้วนและเป็นชุดมาตรการที่สามารถแข่งขันกับประเทศมาเลเซียได้ โดยชุดมาตรการของบีโอไอได้รับอนุมัติในวันนี้ (24 มี.ค.) ส่วนวันอังคารที่ 28 มี.ค.จะเป็นชุดมาตรการด้านภาษีสรรพสามิตเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.)

นอกจากนี้ภาครัฐจะแก้ไขการจัดซื้อรถของส่วนราชการ และกำหนดให้พื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงพื้นที่ในระเบียบเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ต้องใช้รถไฟฟ้าเท่านั้น ขณะที่กระทรวงพลังงานจะส่งเสริมในเรื่องสถานีชาร์ทไฟฟ้าสำหรับรถไฟฟ้า และยังมีการบรูณาการร่วมกันระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษ เป็นต้น เพื่อออกมาตรการดูแลจัดการกับแบตเตอรี่รถยนต์ที่หมดอายุด้วย 

ด้านมาตรการชักจูงการลงทุนจากต่างประเทศ บีโอไอได้จัดทีมชักจูงการลงทุนไปชี้แจงมาตรการส่งเสริมการลงทุนกับค่ายรถต่าง ๆ แล้ว รวมถึง  Tesla Motor  ด้วย กระทรวงอุตสาหกรรมตั้งเป้าว่าจะเกิดการลงทุนและผลิตรถไฟฟ้าประเภท Battery electric vehicle หรือ BEV ภายใน 5 ปีนับจากนี้ไป และยอดผลิตจะทำได้ร้อยละ 30 เพื่อขายในประเทศและส่งออกภายใน 10 ปีนับจากนี้ไป 

ขณะที่ นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการบีโอไอ กล่าวว่า จากผลการศึกษาของ Bloomberg ระบุว่าภายในปี ค.ศ.2040 สัดส่วนยอดจำหน่ายรถ Plug-in electric vehicle :PEV และ Battery electric vehicle หรือ BEV จะมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 35 ของยอดจำหน่ายรถยนต์ทั้งโลก และยอดเติบโตในอัตราเร่งอย่างมาก

สำหรับผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่อเนื่องอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทย หลังจากมีการผลิตรถไฟฟ้า บีโอไอเชื่อว่าผลจากการที่บีโอไอส่งเสริมการลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่นอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอากาศยาน อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ จะทำให้อุตสาหกรรมต่อเนื่องรถยนต์ย้ายไปในกลุ่ม 10 อุตสาหกรรม ขณะที่บางส่วนอยู่ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ต่อไปและพัฒนาสู่การผลิตชิ้นส่วน สำหรับรถไฟฟ้าดังนั้นผลกระทบจึงมีไม่มากนัก