เสริมหล่อทรงผมชายไสตล์วินเทจ เรียบหรู ดูดี

by ThaiQuote, 22 เมษายน 2560

ตั้งแต่ทรงผมชายสไตล์วินเทจ (vintage) ฮิตติดชาร์จตลาดเมืองไทย จะหันไปทางไหนเห็นแต่ชายไทยที่ไว้ทรงผมแนววินเทจกันเต็มบ้านเต็มเมือง อาจจะเพราะแนวการจัดแต่งทรงผมที่เรียบเท่ห์ ดูดีมีเสน่ห์ จึงทำให้ผู้ชายไทยส่วนใหญ่พากันเปลี่ยนทรงผมให้เข้ากับเทรนด์ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ เรียกว่าตั้งแต่รุ่นลูกยันคุณปู่ คุณตา ก็สามารถจัดแต่งทรงผมแนววินเทจได้ จะเรียกทรงผมสไตล์วินเทจ หรือทรงเรโทร (retro) ไม่ใช่ปัญหา เพราะมีความหมายเดียวกันคือทรงย้อนยุค ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่นิยมในหมู่ทหารอเมริกันและผู้ชายแถบยุโรป ด้วยความเท่ห์ ดูดีมีสไตล์เป็นของตัวเอง อีกทั้งยังช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดูมีสง่าราศี สำหรับในเมืองไทยฮิตถึงขนาดที่มีเฟสบุ๊ค “สมาคมทรงผมวินเทจแห่งประเทศไทย” เพื่อเป็นสื่อกลางระหว่างช่างผม และเผยแพร่เทรนด์ทรงผมสไตล์วินเทจในแต่ละปี ร้านตัดผมชายสไตล์วินเทจ ที่ว่านี้เริ่มมีปรากฏให้เห็นมากขึ้น โดยเฉพาะในแหล่งที่มีกลุ่มวัยรุ่นหรือกลุ่มคนวัยทำงาน เช่น ตลาดนัดรถไฟ ตลาดนัดหัวมุมบนถนนเกษตรนวมินทร์ หรือจะใกล้มหาวิทยาลัย ใกล้แหล่งทำงานกลางกรุง ไม่ว่าจะเป็นย่านสุขุมวิท อโศก สยามฯ สีลม สาทร หรือแม้แต่ในแหล่งชุมชนที่มีแรงงานต่างด้าวทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก บางร้านถึงกับมีภาษาเมียร์มาติดไว้หน้าร้านเพื่อเรียกลูกค้าด้วย ส่วนสนนราคาค่าตัด ที่ว่ากันว่าขึ้นอยู่กับสถานที่แต่ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลย โดยเริ่มตั้งแต่ 300 บาท ไปจนถึงหลายพันบาท จากการสำรวจและสังเกตช่างตัดผมสไตล์วินเทจส่วนใหญ่ มักจะมีสไตล์การแต่งตัวเสื้อผ้าและทรงผมที่ออกแนววินเทจ บางคนมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ใส่หมวก ระเบิดหู มีรอยสักลวดลายสไตล์วินเทจตามร่างกาย เหมือนย้อนยุคไปสู่จิ๊กโก๋สมัยก่อน ยังไงยังงั้น “ปั๋นโก๋”  บาร์เบอร์ช้อปสไตล์วินเทจเป็นอีกร้านหนึ่งที่ได้รับความนิยมในหมู่ชายไทยที่หลงใหลทรงผมสไตล์วินเทจ มีด้วยกัน 4 สาขาได้แก่ ซอยเสรีไทย 39 ,ซอยอโศก, ตลาดนัดรถไฟ รัชดา และศรีนครินทร์ เด็กหนุ่มช่างตัดผมคนหนึ่งของร้าน “ปั่นโก๋” สาขาตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ “กฤษณ์” หรือ จักรกฤษณ์ สุวรรณวงศ์ ช่างตัดผมหนุ่ม วัย 21 ปี เป้าหมายของการนัดพบกันในวันนี้เขาตัดผมให้ลูกค้าด้วยความคล่องแคล้ว ละเมียดละไมทุกขั้นตอน ใช้เวลาในการเสริมหล่อให้กับลูกค้าประมาณ 30-40 นาทีต่อคน แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มานั่งมองการตัดผมของเขา ทำให้รู้สึกประทับใจในความเป็นตัวตนของเขาทั้งบุคลิก เอกลักษณ์ในการแต่งตัว และการบริการด้วยอัธยาศัยไมตรีของเขา “กฤษณ์” เล่าให้ฟังอย่างเป็นกันเองว่าเขาดูแลร้านปั่นโก๋ สาขาตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นร้านที่เปิดโดยช่างตัดผมแนววินเทจชื่อดัง "นอก" พานิชย์ ปัตตะพงษ์ พนักงานบริษัทที่ทำงานด้านกราฟิกดีไซน์ แต่ด้วยความชอบแต่งตัวแนววินเทจและมีประสบการณ์การตัดผมย่านบางกะปิมานานหลายปี จึงเปิดร้านตัดผมและออกแบบทรงผมในแนวที่เป็นเอกลักษณ์ จัดร้านในแนวเรโทที่ชื่นชอบเป็นการส่วนตัว “เดิมทีผมกับพี่นอกเปิดร้านน้ำปั่นแถวบ้านในซอยเสรีไทย 39 แต่ด้วยใจรักในสไตล์วินเทจ บวกกับมีความรู้ด้านตัดผมชาย จึงคุยกันว่าเรามาตามหาฝันที่เราชอบและอยากทำดีกว่า จึงเป็นที่มาของร้านปั๋นโก๋ ตัวผมมีลุงเป็นคนสอนตัดผมให้ตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมฯ ตอนนั้นผมน่าจะอายุประมาณ 17-18 ปี ส่วนพี่นอกไปเรียนหลักสูตรตัดผมชายของกรุงเทพมหานคร ในช่วงว่างจากการทำงานประจำ (กราฟฟิก ดีไซน์) เราสองคนมีอะไรคล้าย ๆ กันจึงตัดสินใจทำร้านร่วมงาน โดยพี่นอกดูแลร้านที่อโศก และตลาดนัดรถไฟ รัชดา ส่วนผมดูแลร้านดั่งเดิมที่ซอยเสรีไทย 39 และที่ตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์” “กฤษณ์” เล่าอีกร้านปั๋นโก๋จะตัดผมชายสไตล์วินเทจเป็นส่วนใหญ่ตามแต่ลูกค้าต้องการ ในราคาหัวละ 300 บาท โดยลูกค้าจะเลือกจากทรงผมที่ทางร้านมีโชว์ไว้ให้ดูหรือจากทรงที่ลูกค้าเลือกมาแล้ว แต่ส่วนใหญ่ช่างตัดผมจะดูเนื้อผมของลูกค้าแต่ละคนก่อนว่าเหมาะกับทรงผมที่เลือกหรือไม่ ถ้าไม่เหมาะก็จะให้คำแนะนำอื่น ๆ เพื่อให้ลูกค้าเป็นผู้ตัดสินใจเลือกทรงที่ถูกใจ ตัดแล้วดูดีที่สุด ถูกใจที่สุด หลายคนที่ชื่นชอบทรงผมสไตล์วินเทจ มักจะได้ยินศัพท์ภาษาอังกฤษหลายคำที่เกี่ยวข้องกับทรงผมแนวนี้ เช่น ปอมปาดัว (pompadour) เป็นการเซ็ตผมด้านบนให้มีลักษณะม้วน ๆ เสย ๆ สลีคแบค (slick back) เป็นการเซ็ตผมเสยไปข้างหลังทั้งหมด โคมโอเวอร์ (comb over) เป็นการเซ็ตผมแสกเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ร็อคอะบิลลี่ (rockabilly) เป็นทรงผมที่อยู่ในช่วงแนวดนตรีวงร็อควงนี้กำลังเฟื่องฟู มีเอกลักษณ์การเซ็ตผมในรูปแบบปอมปาดัว เป็นสไตล์ของตัวเอง และอีกมากมายหลายคำ อีกคำที่มักเรียกกันผิด ๆ ถูก ๆ คือ อันเดอร์คัท (undercut) ถ้าให้ความหมายตรงตัวก็คือ รองทรง หรือเรียกให้เก๋หน่อยก็คือ ไถข้าง แต่จะไถข้างแบบไหน ไถสูง ไถต่ำ ไถขาว ไถดำ ก็ขึ้นอยู่กับทรงผมที่ลูกค้าเลือก บวกกับคำแนะนำของช่าง โดยช่างจะดูจากเนื้อผมเป็นหลัก มีอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นตัวช่วยเสริมหล่อให้กับผู้ชายที่นิยมทรงผมสไตล์วินเทจ นอกเหนือจากฝีมือช่างตัดผมแล้ว นั่นคือ ผลิตภัณฑ์แต่งผมชาย ที่มีมากมายทั้ง เจล (Gel) แว๊กซ์ (Wax) แต่ผลิตภัณฑ์ที่ช่างผมสไตล์วินเทจ นิยมใช้จัดแต่งทรงผม คือ โปรเมด (Pomade) โปรเมดไม่ทำให้ผมแห้งและแข็งแต่จะทำให้ดูเปียกเป็นเงางาม เหมาะสำหรับคนผมหนา ผมหยาบ และผมแห้ง เพราะจะช่วยให้ผมอยู่ทรงดีกว่า ดูเงางาม ผมดูมีสุขภาพดี ทำให้ผมแห้งดูดีขึ้น รวมทั้งคนที่มีผมหยิก ผมหนา โปรเมด สามารถช่วยแก้ปัญหาผมชี้ฟูได้เป็นอย่างดี นอกจากฝีมือตัดผมต้องดีแล้วยังต้องมีสไตล์การจัดร้านให้เข้ากับทรงผมที่ออกแบบด้วย ดูเหมือนจะไม่ค่อยเกี่ยวข้องกันแต่ในความเป็นจริง สไตล์การจัดร้านถือเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจเดินเข้าร้านของลูกค้าหลายคนที่ยังไม่เคยตัดผมแนววินเทจ สมเกียรติ รัตนำอนวยศิริ หนึ่งในลูกค้าร้านปั่นโก๋ เล่าว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้สนใจการตัดผมสไตล์นี้ แต่สนใจในการออกแบบร้านมากกว่า ทุกครั้งที่มาเดินเที่ยวตลาดนัดรถไฟ ศรีนครินทร์ จะเดินผ่านร้านนี้บ่อยครั้งเห็นลูกค้าแน่นร้านและมีลูกค้านั่งรอหน้าร้านอีกหลายคน ลูกค้าทุกคนที่เดินออกจากร้านดูมีความสุขกับผมทรงใหม่ มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะคนแถบเอเชียที่มากันเป็นหมู่คณะ 4-5 คน                 “ผมเดินผ่านร้านนี้ทีไรลูกค้าเต็มตลอด เห็นนักท่องเที่ยวชาวจีนมานั่งรอคิวกันเป็นกลุ่ม ๆ ผมเลยตัดสินใจเข้าไปลองตัดบ้าง เชื่อไหม...จากลุงแก่ ๆคนหนึ่ง กลายเป็นหนุ่มใหญ่ดูดีในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ผมพอใจมากและมาตัดที่นี่เป็นประจำเกือบ 2 ปีแล้ว ช่างตัดผมประณีตมาก ค่อย ๆ ตัดแต่งอย่างพิถีพิถัน ใจเย็น อัธยาศัยดี โดยช่างประจำของผมเป็น “น้องทอม” ตัวเล็กมาก แต่เขาก็มีวิธีในการตัดผมที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ผมถูกใจมากครับ” คนเราถ้าจะทำอะไรให้ประสบความสำเร็จสักอย่างต้องเริ่มจากการค้นหาตัวเองก่อน ตามด้วยความชอบและใจรัก จากนั้นค่อย ๆ ลงมือทำอาจจะต้องใช้เวลาสักระยะเพื่อสั่งสมประสบการณ์แล้วความสำเร็จจะไปรอคุณอยู่ที่ปลายทางเสมอ ขอเพียงอย่าท้อและถอดใจเสียก่อนเพราะความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น

Tag :