ภูมิปัญญาชาวบ้านกับวิธีสังเกต “สภาพอากาศ”

by ThaiQuote, 22 เมษายน 2560

ช่วงนี้ฝนฟ้า อากาศแปรปรวนเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้เลย บางวันเช้าอากาศแจ่มใสแต่ทำไมพอเที่ยงหรือเย็นฝนฟ้าดันตกลงมาได้ Thai Quote ได้ลองค้นคว้าหาข้อมูลวิธีการสังเกตอากาศในแต่ละวันของคนโบราณหรือแบบชาวบ้านว่าเขาดูจากอะไรกันบ้างมาฝาก เผื่อใครสนใจจะปรับใช้หรือลองดูก็คงไม่เสียหายอะไร วิธีที่ 1 คือการดูท้องฟ้า ชาวประมงมักดูสีของท้องฟ้าเป็นหลักก่อนออกเรือ ซึ่งสีของท้องฟ้ามีความเกี่ยวพันกับความชื้นและความกดอากาศ เช่น ถ้าท้องฟ้ามีสีแดงส้มในช่วงตอนเช้าหรือช่วงพระอาทิตย์ขึ้น เป็นสัญญาณเตือนว่าจะมีพายุและลมแรง หรือพายุฝนฟ้าคะนอง โดยท้องฟ้าจะมีเมฆชั้นต่ำมาก และมีความกดอากาศ แต่ถ้าท้องฟ้าสีแดงเวลากลางคืนหรือช่วงพระอาทิตย์ตกแสดงว่า ความกดอากาศสูงวันรุ่งขึ้นอากาศจะดีและปลอดภัยในการออกเรือ ขณะเดียวกันก็มีวิธีการสังเกตก้อนเมฆ โดยหาก เมฆเป็นก้อนคล้ายกะหล่ำ ก่อตัวในแนวตั้งเกิดขึ้นจากอากาศไม่มีเสถียรภาพ ฐานเมฆเป็นสีเทา เนื่องจากมีความหนามากพอที่จะบดบังแสง จนทำให้เกิดเงา มักเกิดขึ้นในช่วงอากาศดี ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าเข้ม เมฆก่อตัวในแนวตั้ง พัฒนามาจากเมฆก้อน มีขนาดใหญ่มากปกคลุมพื้นที่ครอบคลุมทั้งจังหวัด ทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง หากกระแสลมชั้นบนพัดแรง ก็จะทำให้ยอดเมฆรูปกะหล่ำกลายเป็นรูปทั่งตีเหล็ก เมฆก้อนลอยติดกันเป็นแพ ไม่มีรูปทรงที่ชัดเจนมีช่องระหว่างก้อนเพียงเล็กน้อย มักเกิดขึ้นเวลาที่อากาศไม่ดี และมีสีเทา เนื่องจากลอยตัวอยู่ในเงาเมฆชั้นบน หากเมฆเป็นแผ่นสีเทา เกิดขึ้นเวลาที่อากาศมีเสถียรภาพทำให้เกิดฝนพรำๆ ฝนผ่าน หรือฝนตกแดดออก ไม่มีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าร้องฟ้าผ่ามักปรากฏให้เห็นสายฝนตกลงมาจากฐานเมฆ นอกจากนี้บางพื้นที่ได้สังเกตปรากฏการณ์ต่าง ๆบนท้องฟ้า เช่นถ้าคืนไหนพระจันทร์มีวงแหวนรอบๆ สามารถคาดการณ์ได้ว่าฝนจะตกอีก 3 วันข้างหน้า หรือการสังเกตการณ์ขึ้นของรุ้งในทิศตะวันออกในช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดินเป็นสัญญาณว่าวันรุ่งขึ้นท้องฟ้าจะแจ่มใส หากมีรุ้งขึ้นในตอนเช้าเป็นสัญญาณเตือนว่าจะมีพายุ วิธีที่ 2 สังเกตจากสิ่งปลูกสร้างใกล้ตัวของเราที่สุดคือ บ้านที่อยู่อาศัย ดูจากการเปิดปิดประตูหากวันไหนเปิดคล่องไม่ติดขัด ฝนจะไม่ตก อากาศแห้ง ถ้าเปิดประตูยากแสดงว่าอาจมีฝนตก เนื่องจากความชื้นในอากาศสูง หรือสังเกตฝาผนังปูภายนอกบ้าน โดยหากฝาผนังเปียก แสดงว่า ในอากาศมีความชื้นมาก อาจเกิดฝนตกได้ นอกจากนี้ชาวบ้านบางแห่งอาจสังเกตการก่อกองไฟ คือหากไฟลุกต่อเนื่องแสดงว่าฝนไม่ตก อากาศดีไม่มีความชื้นในอากาศ แต่หากก่อแล้วติด ๆดับ ๆ ก็อาจมีฝนตกได้ เพราะความชื้นในอากาศสูง เมื่อฝนใกล้ตกภายใน 2-3 วัน จะต้องมีความชื้นในอากาศมาก่อน วิธีที่ 3 ดูจากพฤติกรรมของสัตว์เช่น มดแดง ถ้าทำรังบนที่สูงจะไม่มีลมพายุ หากทำรังกลางต้นไม้ แสดงว่ามีพายุแต่ไม่รุนแรงมาก แต่หากมดแดงทำรังใกล้พื้นดินแสดงว่าปีนั้นจะมีลมแรง และอาจมีพายุได้ โดยมดแดงสามารถรู้ล่วงหน้าก่อนพายุมาได้ถึง 3 เดือน และมดแดงจะเปลี่ยนที่ทำรังทุกปี หรือดูจาก “มดดำ” คนเฒ่าคนแก่มักชี้ชวนในเราดูมดดำขนไข่สีขาวเมื่อเวลาก่อนฝนตก หรือน้ำท่วม เพื่อทำรังในในที่สูง โดยมดดำรับรู้ได้ก่อนจะมีฝนตกหรือน้ำท่วมไม่เกิน 7 วัน และหากสังเกตเห็นกบกระโดดข้ามถนนแสดงว่าพวกมันกำลังคอยฝน นกล่าเหยื่อหลายชนิดจะเริ่มบินวนในอากาศ ก่อนฝนจะตก 2-3 วัน ม้าจะวิ่งอย่างตื่นตระหนกก่อนที่จะมีลมพายุรุนแรงพัดมา หมูจะโกยเอาฟาง ใบไม้และกิ่งไม้มารวมกันไว้ก่อนจะมีพายุกระหน่ำ หรือถ้าเห็นวัวจ่าฝูงนำหน้าลูกฝูงออกไปหากินกลางทุ่ง แสดงว่าจะมีฝนตกในไม่ช้า แต่ถ้าเห็นลูกฝูงเดินนำหน้าจ่าฝูง อากาศจะไม่แน่นอน อาจมีฝนฟ้าคะนองอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามเรื่องของวิธีการสังเกตสภาพอากาศดังกล่าว เป็นเพียงการสังเกตโดยดูจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นวิธีในอดีต สำหรับปัจจุบัน การพยากรณ์อากาศ มีการใช้เครื่องมือที่ทันสมัยในการพยากรณ์ซึ่งมีความแม่นยำสูง ดังนั้นเราจึงควรติดตามและให้ความสนใจในการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ควบคู่ไปด้วย เพื่อป้องกันเหตุการณ์จากสภาพอากาศเลวร้าย หรือเตรียมตัวรับมือกับความเปลี่ยนของสภาพอากาศได้อย่างทันท่วงที

Tag :