เร่ง "เปิดตลาด" ช่วย SMEs

by ThaiQuote, 28 เมษายน 2560

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเร่งผลักดันโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาค หลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ 2560 รายการค่าใช้จ่ายส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายในประเทศให้กับกระทรวงพาณิชย์เพิ่มเติมประมาณ 2 พันล้านบาท โดยจะมีการเร่งดำเนินโครงการรวม 7 โครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการผลักดันการเปิดตลาดในรูปแบบต่าง ๆ และโครงการช่วยเหลือและพัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้จีดีพีในส่วนภูมิภาคปีนี้เติบโตได้เพิ่มขึ้นประมาณ 10 % โดยในส่วนของโครงการพัฒนาผู้ประกอบการสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ (NEA) จะเพิ่มหลักสูตรในการฝึกอบรมและพัฒนาผู้ประกอบการ เน้นการเจาะตลาด CLMV ให้มากขึ้น นอกเหนือจากหลักสูตรเดิมที่มุ่งการพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการในการทำธุรกิจ เพราะกระทรวงฯ มองว่า CLMV เป็นตลาดที่มีโอกาสสำหรับผู้ประกอบการของไทยทั้งในด้านการขยายมูลค่าการส่งออกและการเข้าไปลงทุน นอกจากนี้จะเร่งเปิดผลักดันโครงการเปิดตลาดกลางและตลาดชุมชนประชารัฐให้ได้มากขึ้น ซึ่งกรมการค้าภายในอยู่ระหว่างการเร่งผลักดันการเปิดตลาดในรูปแบบต่าง ๆ และยังจะดำเนินการยกระดับและจัดทำมาตรฐานตลาด เช่น ต้องสะอาด ถูกสุขอนามัย มีการกำจัดขยะ ดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นต้น เพื่อให้ตลาดที่เกิดขึ้น สามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืนด้วย ขณะเดียวกันจะเร่งพัฒนาโครงการตลาดภูมิภาค โดยได้ตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาให้ได้ 16 ตลาด เน้นตลาดที่ติดชายแดน จะทำการยกระดับตลาดเดิมที่มีอยู่ให้มีมาตรฐาน เข้าไปช่วยเหลือปรับปรุงฐานข้อมูลด้านราคาให้สอดคล้องตั้งแต่ฟาร์ม ค้าส่ง ค้าปลีก เพื่อให้เป็นตลาดที่จะใช้ในการขยายเข้าสู่ตลาดเพื่อนบ้าน และส่งออกไปขายต่างประเทศ สำหรับโครงการพัฒนาตลาดกลางข้าวสาร กระทรวงฯอยู่ระหว่างการดำเนินการผลักดันเพื่อให้เกษตรกรมีพื้นที่ในการขายข้าว มีตลาดที่มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย มีระบบตรวจสอบคุณภาพข้าว มีระบบการซื้อขายที่ทันสมัย มีสินค้านวัตกรรมที่เกี่ยวกับข้าวเกิดขึ้น โดยมีแนวคิดจัดตั้งใน 2 รูปแบบ คือ ให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) ดำเนินการ หรือให้เอกชนดำเนินการ ซึ่งในส่วนของเอกชนมีผู้สนใจเสนอตัวเข้ามาแล้ว 3-4 แห่ง แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าวว่า กระทรวงฯยังได้รับงบประมาณที่จะใช้ในโครงการพัฒนาร้านค้าท้องถิ่นและร้านค้าชุมชน โดยจะมีการพัฒนาต้นแบบร้านค้าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและเสริมสร้างศักยภาพร้านค้าชุมชนไทย โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะเข้าไปช่วยในการพัฒนาร้านค้าในท้องถิ่นให้เป็นร้านค้าสำหรับท้องถิ่นที่จะจำหน่ายสินค้าท้องถิ่น สินค้าชุมชน และสินค้าโอทอป และยังจะช่วยพัฒนาศักยภาพร้านค้าชุมชนให้มีความเข้มแข็งและสามารถแข่งขันได้ ส่วนโครงการจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการครบวงจร หรือ Startup Complex คงต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ เพราะต้องปรับปรุงสถานที่ตึกเก่าที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ถ.รัชดาภิเษก แต่ในระยะแรกก็มีหลายส่วนที่จะดำเนินการได้ทันที เช่น การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้ประกอบการ การจัดการเจรจาจับคู่ธุรกิจ ซึ่งหากจัดตั้งสำเร็จ ก็จะเป็นศูนย์ที่ใช้ในการพัฒนา SMEs และ Startup ได้อย่างครบวงจร
Tag :