จะว่ากันว่าประสบการณ์ต่างจากการเรียนในห้องเรียนนั้นเห็นจะเป็นเรื่องจริง  มีบางคนยังบอกอีกว่าประสบการณ์มีค่ากว่าใบปริญญา เห็นได้จากบรรดานักร้อง นักแสดงที่ทำงานอยู่ในวงการบันเทิงไทย และยังมีบางคนที่พัฒนาการก้าวประโดดไปไกลถึงต่างแดน  ซึ่งส่วนหนึ่งนั้นได้เลือกให้ความสำคัญกับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อ ชื่อเสียง ความผิดหวัง ความกดดัน และท้ายที่สุดมีเม็ดเงินอัดฉีดที่เข้ามาอย่างคุ้มค่าแทน 

อนันดา เอเวอร์ลิ่งแฮม  เป็นลูกครึ่งออสเตรเลีย-ลาว วัย 34 ปี  เป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง ตรงไปตรงมา เกลียดการโกหก ไม่ชอบอยู่ในสถานที่ที่คนเยอะ สมัยที่ยังเป็นเด็กเขาค่อนข้างเกเรจึงต้องออกจากโรงเรียนทั้งที่ยังไม่จบไฮสคูล พ่อจึงส่งไปเรียนต่อที่ประเทศอินเดียแต่ก็ถูกชักชวนเข้าวงการบันเทิงเสียก่อน ภาพยนตร์เรื่องแรกของอนันดาคือ อันดากับฟ้าใส  และมีผลงานการแสดงภาพยนตร์ถึง 10 เรื่อง และในปี พ.ศ. 2552 เขากวาดรางวัลด้านการแสดงในสาขานักแสดงนำจาก 6 สถาบัน ด้วยผลงานภาพยนตร์เรื่อง แฮปปี้เบิร์ธเดย์  และได้ร่วมทำธุรกิจกับเพื่อนโดยตั้งบริษัท เฮโล โปรดักส์ชั่น รับทำงานอีเวนต์เกี่ยวกับงานศิลปะ นอกจากนั้นยังรับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์และพรีเซนเตอร์ให้กับโฆษณาจักรยานยนต์ ซูซูกิ รวมถึงแป๊ปซี่ แม็กซ์

ชาคริต แย้มนาม หนุ่มใหญ่วัย 38 ปี หลังจากจบไฮสคูลที่ประเทศนิวซีแลนด์ เขาเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรีทางไปรษณีย์ ที่ International Correspondence School (ICS) ปัจจุบันหยุดพักมาทำงานในวงการบันเทิง ผลงานชิ้นแรกคือการถ่ายแฟชั่นในนิตยสาร Angel  พิธีกรรายการ ทีนทอล์ค ซึ่งมีโอกาสได้ออกอัลบั้มพิเศษ "Teentrax" ใน ปี 42 โดยที่ผลงานผ่านมามีทั้งภาพยนตร์  ละครโทรทัศน์  นักพากย์  และพิธีกร อาทิ เชฟกระทะเหล็ก ครัวแล้วแต่คริต และอีกมากมายในวงการบันเทิงไทย

มาริโอ เมาเล่อร์ เกิดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2531 อายุ 29 ปี  เป็นลูกครึ่งไทย-จีน-เยอรมัน เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่อายุ 16 ปีโดยได้รับการติดต่อจากโมเดลลิ่ง  เริ่มงานถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา งานละคร รวมถึงภาพยนตร์ โดยปี 50 มีผลงานภาพยนตร์ คือ รักแห่งสยาม  ที่ทำให้คนรู้จักมาริโอ้มากขึ้นและได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากนิตยสารฟิกส์ ในเทศกาลหนังประเทศฟิลิปปินส์ หลังจากนั้นคุณแม่อยากให้เรียนต่อ แต่สุดท้ายเขาเลือกเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหงเพราะต้องทำงานไปด้วยและอยากหาเงินช่วยที่บ้าน ในปี 56 โอ้มีผลงานที่สร้างชื่อกับ จี เอ็มเอ็ม ไท หับ หรือจีทีเอช เรื่อง พี่มาก…พระโขนง ที่ทำรายได้มากกว่า 1,000 ล้านบาท

แน็ก ชาลี ไตรรัตน์ วัย 24 ปี  นักแสดงชาวไทยที่เข้าสู่วงการตอนเด็ก มีผลงานภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียง แฟนฉัน ทำรายได้สูงสุดถึง 140 ล้านบาท ในปี 46 แน็กรับรางวัลพระราชทานสุรัสวดี เมื่อปี 49 สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่องเด็กหอ  ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง และหยุดเรียนไป เพราะหาแรงบันดาลใจในการเรียนไม่ได้ จึงหยุดเรียนมาถึงทุกวันนี้

ชิตพล ลี้ชัยพรกุล หรือ เตนล์ ที่คนทั่วไปรู้จักเขาในนาม ศิลปิน K-POP สมาชิกบอยแบรนด์ วง NCT U จากค่าย SM Entertainment  ที่โด่งดัง และเข้าทำงานได้ยากมากที่สุดบริษัทหนึ่ง เตนล์เกิดวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2539 จบการศึกษาระดับไฮสคูลจาก Shrewsbury International School ประเทศไทย และเขาได้รับเลือกให้เป็นเด็กเทรนในค่าย SM ตอนรอบคัดเลือก SM Global Audition in Thailand 2013 แล้วเริ่มปรากฏตัวในโปรเจค SMRookies ตอนปลายปี 2013  ซึ่งถือว่าเร็วมากสำหรับการทำงานกับมือโปรฯ ประเทศเกาหลี

กุ๊บก็บ สุมณทิพย์ เกิดวันที่ 16 กันยายน 2531 นักแสดงหญิงชาวไทยมีผลงานในวงการบันเทิง ทั้งการถ่ายโฆษณา โครงการทูบีนัมเบอร์วัน  งานโฆษณา ภาพยนตร์ ละครโทรทัศน์ และงานพิธีกร  เธอเคยศึกษาที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่ที่ยังเรียนไม่จบเพราะเธอหันมาเอาดีทางด้านการแสดงและพิธีกรเป็นหลัก  ปัจจุบัน สมรส และเธอมีบุตรสาว คือ พอลลีน่า ชี (ชื่อเล่น เป่าเปา)

ใบเตย อาร์สยาม หรือ สุธีวัน ทวีสิน สาวนุ่งสั้น วัย 30 ปี เป็นนักร้องลูกทุ่งชาวไทย ค่าย อาร์สยาม  เธอมีซิงเกิลเพลงที่สร้างชื่ออาทิ กรุบ กรุบ, ติดหนึบ, คนไม่ดีมีสิทธิไหม และโฆษณา ภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ อาทิ  เทพธิดาบ้านทุ่ง และน้องเมีย เธอเผยว่าเคยเรียนที่ธุรกิจบัณฑิตย์มาแล้ว 2 ปี แต่ปัจจุบันหยุดพักการเรียนไปแล้วเพราะงานค่อนข้างมาก

บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์  วัย 34 ปี  เรียนจบจาก ม.ปลายก็มีอันต้องผันตัวไปทำงานวงการบันเทิง และเมื่อมีงานเข้ามามากมายทั้ง ถ่ายแบบ-เดินแบบ ถ่ายโฆษณา ร้องเพลง พิธีกรและงานละคร ที่ทำให้สาวบีไม่สามารถผละตัวออกมาเพื่อเรียนต่อได้ เนื่องด้วยมีงานที่หลากหลายรูปแบบ ยังสนุกกับงาน ลุยงานหนักต่อไป และต้องยอมรับว่า ชีวิตการทำงานของเธอนั้นสุดคุ้ม

เรียกได้ว่า มีรูปร่างหน้าตา แถมความสามารถ เรียกทรัพย์กันจริง ๆ แต่ที่แน่ ๆ เมื่อไม่สนใบปริญญาก็เห็นจะต้องคู่ควรกับคำว่า สร้างโอกาสที่ดีให้กับตนเอง ไปให้ถึงที่สุด เพราะชีวิตการทำงานกับผลตอบแทนนั้นสุดคุ้มจริงๆ

ขอบคุณข้อมูล: kaijeaw.com,Wikipedia