“FOMO” ภัยร้ายยุค 4.0 คุณคือ 1 ในนั้นเปล่า

by ThaiQuote, 28 พฤษภาคม 2560

หันไปทางไหน ใคร ๆก็พูดถึงเรื่องของ 4.0 หรือ 0.4 แต่ที่แน่ ๆระหว่างที่เหลียวซ้ายแลขวา และมองหน้ามองหลัง ระยะสายตาพอจะกวาดเห็นล้วนมีสมาร์ทโฟนคู่ใจอยู่ในมือแทบทั้งสิ้น ต้องยอมรับว่า อินเตอร์เน็ตมีบทบาทในชีวิตของคนในสังคมไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตั้งแต่เด็กอนุบาลยันคนวัยเกษียนไล่ตั้งแต่ เกมออนไลน์ โซเชียลมีเดียตลอดจนการเสพข้อมูลข่าวสาร แล้ว “FOMO” คืออะไร

       คำว่า FOMO ย่อมาจาก “Fear of Missing Out”  ซึ่งแปลว่าพฤติกรรม “กลัวการตกกระแส” ซึ่งมีอยู่ในกลุ่มของคนที่มีพฤติกรรมกระหายต้องการเสพข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ มากกว่าใครและต้องรับรู้ก่อนใคร มีความตื่นเต้นและภาคภูมิใจหากตนรู้เรื่องเหล่านั้นก่อนใคร รวมทั้งจะรู้สึกเสียความมั่นใจหากตนไม่รู้เรื่องที่กำลังเป็นประเด็นให้พูดถึง

       ทั้งนี้พฤติกรรมดังกล่าวเป็นส่วนต่อขยายมาจากคำว่า “สังคมก้มหน้า” แต่มันได้ก้าวกระโดดไปจนกลายเป็นภัยร้ายต่อตนเองหากใครมีพฤติกรรมดังกล่าว จากสถิติเกี่ยวกับพฤติกรรม FOMO พบว่าคนทั่วโลก 64 % รู้สึกกลัวการตกกระแสเมื่อไม่สามารถเล่นอินเตอร์เน็ตได้ จาก 64 % ดังกล่าวพบว่าเป็นประชากรชาวเอเชียถึง 80% เมื่อเจาะลึกลงไป มีถึงร้อยละ 56% ที่มีพฤติกรรมกลัวตกข่าวหากไม่ได้อัพเดตกิจกรรมบ่อยๆในโลกสังคมออนไลน์ทั้ง เฟสบุ๊ค และ ทวิตเตอร์ และไลน์

     ลองมาดูว่าพฤติกรรมอะไรบ้างที่เข้าข่ายว่าคุณอาจจะเป็น FOMO 1.ชีวิตติด “แชท”,”ไลค์” , “แชร์” และ “รีทวีต” ต้องออนไลน์อยู่ตลอดเวลา

2. ภาคภูมิใจเมื่อตนมีเพื่อนหรือผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก เครียดกังวล เมื่อเจอข้อความเชิงลบบนโซเซียลมีเดียของตนเอง

3. รู้สึกว่าการแชทสนุกกว่าการคุยกับเพื่อนแบบ เจอหน้ากันตัวเป็นๆ

4.ภาคภูมิใจเวลาที่รู้เรื่องหรือประเด็นร้อนในสังคมก่อนเพื่อนหรือก่อนใครๆ

5.ชอบที่จะแสดงความคิดเห็นในประเด็นที่กำลังได้รับความสนใจ

6.วางมือถือไว้นานไม่ได้ ต้องหยิบมาดูว่ามีอะไรอัพเดทบ้างหรือไม่ ,กระวนกระวายหากลืมมือถือ ,หงุดหงิดเมื่อแบตหมด พกแบตเตอรี่สำรองชาร์จมือถือแทบตลอดเวลา และไม่เคยจะปิดเครื่องมือถือเลย

      สำหรับวิธีการรับมือกับพฤติกรรมดังกล่าวนั้น อันที่จริงควรตั้งสติแล้วคิดว่าการอยู่บนโลกแห่งความจริง มองสิ่งต่าง ๆรอบตัวคุณนั่นแหละคือการอัพเดตเหตุการณ์ต่างๆได้ดีที่สุด ละลายสายตาจากหน้าจอมือถือทุก ๆ 2 ชั่วโมง  ปิดโทรศัพท์แล้วหางานอดิเรกอย่างอื่นทำบ้าง ลองหาเวลาว่างไปท่องเที่ยวหรือทำกิจกรรมกับเพื่อนฝูง แล้วเราจะรู้ว่ารอบตัวเรามันมีสิ่งที่น่าสนใจกว่าหน้าจอมือถืออีกมากมาย

   

Tag :