นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในเฟสบุ๊คส่วนตัวถึงผลกระทบจากกรณีกลุ่มประเทศอาหรับประกาศคว่ำบาตรประเทศกาตาร์ ว่า “ข่าวใหญ่ของภูมิภาควันนี้คือซาอุดิอารเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรน อิยิปต์และต่อมาตามด้วยลิเบียกับเยเมนได้ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับกาต้าร์ซึ่งเป็น 1 ใน 6 ประเทศกลุ่ม GCC โดยสั่งให้นักการทูตกาต้าร์เดินทางออกจากประเทศภายใน 48 ชม.และประชาชนชาวกาตาร์ออกจากประเทศภายใน 14 วัน พร้อมทั้งตัดการขนส่งทางอากาศ ทะเลและถนน

โดยได้ยกประเด็นจากกรณีที่กาตาร์ให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย และการปฏิบัติการของอิหร่านในบาห์เรน การให้การสนับสนุนขบวนการ Muslim Brotherhood ซึ่งเห็นว่าเป็นอันตรายต่อภูมิภาค เป็นเหตุผลในการตัดความสัมพันธ์กับกาตาร์ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อการค้าของไทยคือการขนส่งสินค้าทางถนนผ่านทางดูไบไปกาตาร์จะไม่สามารถดำเนินการได้ในขณะนี้ แต่การส่งสินค้าทางอากาศจากประเทศไทยมายังกาตาร์ยังทำได้โดยใช้สายการบิน Qatar Airways ซึ่งบินตรงระหว่างกรุงเทพฯและกรุงโดฮา

          อย่างไรก็ตามกาต้าร์เป็นตลาดสำคัญอันดับ 3 ของไทยใน GCC รองจากซาอุดิอารเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ประเทศไทยส่งสินค้าตรงไปยังกาตาร์มีมูลค่า 102.17 ล้านเหรียญสหรัฐฯหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไป การส่งออกของไทยมายังกาตาร์จะต้องส่งตรงเข้า Doha Port แทนการส่งผ่านดูไบ ซึ่งสินค้าที่จะไม่ได้รับผลกระทบหรือกระทบน้อยได้แก่ อัญมณี และผักผลไม้สดซึ่งใช้การขนส่งทางอากาศเป็นหลัก ส่วนรถยนต์ เครื่องปรับอากาศและตู้เย็นจะได้รับผลกระทบค่อนข้างมากเนื่องจากปัจจุบันใช้การขนส่งผ่านแดนจากดูไบ หวังว่าจะกลับมาดีกันในเร็ววัน”