“กลุ่มช้าง” ทุ่มหมื่นล้านกวาดซื้อ KFC

by ThaiQuote, 10 สิงหาคม 2560

บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือ ไทยเบฟ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ว่าบริษัทได้บรรลุข้อตกลงที่จะซื้อร้านสาขาของ KFC จาก Yum Restaurants (ประเทศไทย) ที่เหลืออยู่ทั้งหมด ประมาณ 240 สาขา รวมทั้งสาขาที่มีแผนจะเปิดในอนาคตด้วย โดยข้อตกลงนี้มีมูลค่ากว่า 11,300 ล้านบาท

    กลุ่มบริษัท Yum Restaurant ในไทยนั้นมีแผนขายร้านสาขาที่ดำเนินงานเองทั้งหมดออกไป โดยจะดำเนินงานเฉพาะการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และได้มีการประกาศขายสาขา KFC ทั้งหมดที่มีก่อนหน้านี้ ซึ่งก็เป็นไทยเบฟของตระกูลสิริวัฒนภักดี ที่มาซื้อและได้ขาย Pizza Hut ให้กับกลุ่ม PH Capital ของ Thoresen Thai Agencies (TTA) ตระกูลมหากิจศิริ

ปัจจุบัน KFC มีสาขาในประเทศไทยราว 600 สาขา โดยสาขาที่เหลือเป็นของกลุ่ม CRG ในเครือเซ็นทรัล ประมาณ 200 กว่าสาขา และกลุ่ม RD อีกกว่า 100 สาขา โดยเป็นการขายสิทธิในรูปแบบแฟรนไชส์ผู้บริหารของไทยเบฟอธิบายเหตุผลของการเข้าซื้อ KFC นี้ว่านอกจากเป็นการขยายธุรกิจแล้วยังเปิดโอกาสให้เข้าถึงเทรนด์ใหม่ผ่านเครือข่ายของ KFC ที่มีอยู่ทั่วประเทศด้วย

สำหรับธุรกิจของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และอาณาจักรของ เจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าสัวแสนล้าน ที่นิตยสารฟอร์บส์ได้ประกาศการจัดอันดับให้เป็นมหาเศรษฐีพันล้านดอลลาร์จากทั่วโลก โดยเจ้าสัวเจริญติดอันดับที่ 61 ซึ่งสินทรัพย์กว่า 17,400 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 591,600 ล้านบาท ประกอบด้วย

          กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม

          -สายการผลิตเบียร์สายการผลิตสุรา นอกจากนี้ไทยเบฟยังเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสุราในต่างประเทศอีกด้วย

          -สายการผลิตเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์

          - น้ำดื่ม โซดาตราช้าง – น้ำดื่มโซดาตราคริสตัล - น้ำอัดลม เอส โคล่า และเครื่องดื่มเอสรสชาติต่าง ๆ- พาวเวอร์ พลัส- แรงเยอร์- ชาเขียวโออิชิกรีนที รสชาติต่าง ๆ – จับใจ - 100 พลัส และนมแมกโนเลีย กิงโกะ พลัส พร้อมดื่ม จากกลุ่ม F&N

          ผลิตภัณฑ์จากธุรกิจต่อเนื่อง- ถังไม้โอ๊ค- อิฐมวลเบา- ปุ๋ย

          ภัตตาคารอาหารญี่ปุ่น- อาหารญี่ปุ่นโออิชิ- อาหารแช่แข็งสำเร็จรูป และขนมขบเคี้ยวโออิชิ

          กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมและการค้า

          บริษัท ทีซีซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ กลุ่มไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 64.59% ของบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี โดยถือหุ้นในนาม บริษัท บีเจซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด ในสัดส่วน 71.48 %  สำหรับผลิตภัณฑ์ที่หลายคนอาจจะรู้จักและคุ้นตาคือ ขนมขบเคี้ยวต่าง ๆ เช่นเทสโต้ ปาร์ตี้ แคมปัส โดโซะ ไบตี้ หรือโยเกิร์ต นมเปรี้ยวปาร์ตี้ แดรี่ เครื่องดื่มซัมเมอร์ เป็นต้น

          นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่เราคุ้นเคยอีกคือ สบู่ ครีมอาบน้ำยี่ห้อแพรอท หรือยี่ห้อนกแก้วนั่นเอง หรือจะเป็นกระดาษเซลล็อกซ์ รวมไปถึงร้านหนังสือเอเชียบุ๊คส์

          กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

          บริษัท ทีซีซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือกลุ่มไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น มีอสังหาริมทรัพย์ และโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รวมถึงที่ดินเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลายคนน่าจะคุ้นเคยในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ดังนี้ – เอเชียทีค - พันธุ์ทิพย์พลาซ่า ประตูน้ำ งามวงศ์วาน เชียงใหม่ – ธุรกิจการบริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ - โครงการอาคารสำนักงานปาร์คเวนเจอร์ อีโคเพล็กซ์ - โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ- พลาซ่า แอททินี- เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟสยาม สแควร์- บ็อกซ์สเปซ- ถือหุ้นบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัทอสังหาริมทรัพย์ ทำโครงการบ้านจัดสรรต่างๆ ในกทม.และปริมณฑล

          กลุ่มธุรกิจประกันและการเงิน

          - บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน)- บริษัท อาคเนย์แคปปิตอล จำกัด- บริษัท อาคเนย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)

          กลุ่มสื่อสารมวลชน

          บริษัท วัฒนภักดี จำกัด เข้าถือหุ้น บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือเจ้าของอมรินทร์ทีวี และหนังสือต่างๆ ในสัดส่วน 47.62%

Tag :