“โครงสร้างกฎหมายออกมาดี ความร่วมมือต่าง ๆก็ดี แต่ปัญหาขณะนี้คือการบังคับใช้กฎหมายกับการฮั้วประมูลยังมีอยู่ ดังนั้นกรมบัญชีกลางยังจะต้องปรับปรุงระบบต่าง ๆให้ดีขึ้นกว่านี้ แต่ที่น่ายินดีคือคนไทยเริ่มตระหนักรู้มากขึ้นในรอบ 8 ปี มีผู้ประกอบการไม่จ่ายเงินใต้โต๊ะสูงถึง 59 % และจ่ายเงินใต้โต๊ะเพียง 13% เท่านั้น จากเดิมที่จ่าย 15-18% ถือว่ามีผู้ไม่จ่ายเงินใต้โต๊ะสูงสุดในรอบ 8 ปีตั้งแต่มีการสำรวจดัชนีฯ ขณะที่อัตราการจ่ายเงินก็ลดลงเหลือเพียง 5-15% ของวงเงินคอร์รัปชั่นจากงบประมาณรายจ่าย ค่าครุภัณฑ์ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง งบลงทุนรัฐวิสาหกิจหรือ 65,000-196,000 ล้านบาท คิดเป็น 2.2-6.7% ของบประมาณ โดยทุก 1% ที่ลดลงนั้น ประหยัดเงินได้ถึง 10,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนต่อจีดีพี 0.4-1.3% หรือเฉลี่ยที่ 0.7% ของจีดีพี” อย่างไรก็ดีการที่นานาชาติยังไม่เห็นว่าสถานการณ์คอร์รัปชั่นของไทยดีขึ้น โดยยังให้คะแนน 35 จาก 38 และอันดับลดลงมาจาก 76 เป็น 101 ไม่ใช่ว่าเราทำสถานการณ์ไม่ดีแต่เขาตั้งคะแนนใหม่ เอาเรื่องการเมืองการแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ปีนี้สถานการณ์ในประเทศไทยดีขึ้นเห็นผลเป็นรูปธรรม จะช่วยทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศอยู่ในมิติที่ดีขึ้น