(Yoyo Effect) “โยโย่เอฟเฟกต์” คือภาวะที่น้ำหนักตัวที่ไม่เสถียร มีเพิ่มขึ้น และลดลง และสุดท้ายจะสิ้นสุดด้วยการมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนเริ่มการลดความอ้วน หรือซ้ำร้ายบางคนบางคนอาจมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องแม้จะควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายแล้วก็ตาม การขึ้นลงของน้ำหนักตัวนี้มีลักษณะคล้ายลูกดิ่ง จึงเป็นที่ว่าของภาวะที่เรียกว่า “โยโย่เอฟเฟกต์” แล้วเราจะทำอย่างไรหากไม่อยากให้เกิดภาวะดังกล่าวระหว่างการลดความอ้วน ทั้งนี้ 3 สาเหตุหลักของภาวะดังกล่าว คือ 1.พฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกต้อง 2.การออกกำลังกายที่ไม่ถูกต้อง และ 3.การใช้ยาลดความอ้วน โดยเฉพาะการอดอาหารหรือควบคุมอาหารจนขาดพลังงานเข้าสู่ร่างกายอย่างเพียงพอ สำหรับการอดอาหารจะทำให้สารอาหารและพลังงานที่เข้าสู่ร่างกายลดลงมากเกินไป ทำให้ร่างกายค่อยๆ สูญเสียการเผาผลาญอย่างต่อเนื่อง ยิ่งหากไม่ออกกำลังกาย บวกกับความเครียดที่มาจากความหิว จะยิ่งทำให้ร่างกายสูญเสียมวลกล้ามเนื้อและส่งผลร้ายต่ออัตราการเผาผลาญ ขณะที่การลดน้ำหนักด้วยยาลดน้ำหนัก โดยไม่สนใจที่จะควบคุมอาหารหรือออกกำลังกายให้ถูกต้อง ยังเป็นตัวเร่งให้ภาวะน้ำหนักตัวโยโย่ได้เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้เมื่อเกิดภาวะน้ำหนักตัวโยโย่แล้ว จะทำให้ร่างกายเผชิญกับภาวะไขมันเกินร่วมกับภาวะมวลกล้ามเนื้อลดลง และระบบการเผาผลาญในร่างกายมีความเสียหายอย่างรุนแรง เรียกว่า เสียสุขภาพมากกว่าตอนที่น้ำหนักเกินเพียงอย่างเดียว โดยอาจนำไปสู่การเป็นโรคไขมันอุดตันในหลอดเลือด ไขมันพอกตับ โรคเบาหวาน และที่สำคัญที่สุดคือ การฟื้นฟูสุขภาพร่างกายให้กลับมาดังเดิมจะทำได้ยาก และใช้เวลานานกว่าการลดน้ำหนักอย่างถูกต้อง หรือหลายคนไม่สามารถมีสุขภาพฟื้นกลับคืนได้อีกเลย อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติตัวเมื่อต้องการลดความอ้วน จึงควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยรับประทานอาหารให้ได้แคลอรี่ และสารอาหารเพียงพอกับการเผาผลาญพื้นฐานของร่างกาย วางแผนการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมีช่วงพักลดน้ำหนักเป็นระยะๆ เมื่อลดน้ำหนักอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ตึงเครียดเกินไปหลีกเลี่ยงการลดน้ำหนักมากเกินไป แต่ละครั้งไม่ควรลดเกิน 10% ของน้ำหนักตัวเริ่มต้น ขณะเดียวกันไม่ควรกินจุบจิบ รักษาวินัยในการรับประทาน