“อะแมนด้า คาร์” ปั่น 2 ล้อติดธงชาติไทยโอลิมปิกเกมส์

by ThaiQuote, 8 มิถุนายน 2559

ทันทีที่กลับถึงบ้าน สื่อมวลชนจากหลายสำนักต่างรุมล้อมจับจองตัวเธอให้ออกรายการต่าง ๆอย่างไม่ขาดสาย สิ่งหนึ่งที่เธอมักบอกเสมอเมื่อถูกถามถึงเป้าหมายในการเป็นนักกีฬานั่นคือ "อยากไปโอลิมปิกจ๊ะ อยากจะคว้าเหรียญเอามาให้ประเทศไทยจ้ะ"

ใครจะไปคิดว่าจากคำพูดของเธอในวันนั้นจะส่งผลได้เร็วปานนี้ นั่นคือเธอสามารถผ่านการควอลิฟายเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2016 ณ กรุงริโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล ได้สำเร็จ โดยเธอได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Amanda Carrว่า Holy cow, I qualified for the Olympics!!! My heart is so full! To everyone in the world who has ever been a teammate, a friend, mentor, family member, or has supported and guided me, this smile is for you. We did it. I could never have accomplished this without the help of your love!!! Thank you. Thank you. Thank you."ถ้าจะแปลเป็นไทยก็คือ "ในที่สุด อะแมนด้าก็ได้ผ่านการคัดเลือกให้ไปแข่งขันที่โอลิมปิคแล้วจ้า อะแมนด้าอยากจะให้ทุกคนร่วมฉลองที่ทุกคนร่วมเป็นส่วนสำคัญในครั้งนี้ อะแมนด้ามาถึงจุดนี้ได้เพราะได้รับกำลังใจจากทุกๆ คนจ้า!!! ---

วันนี้เราจะพาย้อนกลับไปดูจุดเริ่มต้นของความฝันของผู้หญิงที่ชื่อ 'อะแมนด้า คาร์' สาวลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ขวัญใจคนไทยรายนี้ เธอเกิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2533 ที่เมืองปุนตา กอร์ดา รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา คุณแม่ของอะแมนด้าเป็นคนไทย ส่วนคุณพ่อเป็นคนอเมริกัน อะแมนด้าจึงถือสัญชาติทั้งไทยและอเมริกัน

เธอจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาจาก Charlotte High School และได้เรียนต่อที่ North Carolina State University ในปี พ.ศ. 2551 ก่อนจะย้ายมาเรียนที่ Florida State University เมื่อปี พ.ศ. 2552 แต่แล้วด้วยความมีใจรักในกีฬาเธอตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยเพื่อที่จะมาเป็นนักกีฬาจักรยาน BMX

อะแมนด้า คาร์ เริ่มเข้าแข่งขันกีฬาจักรยาน BMX นับตั้งแต่ที่เธออายุเพียง 15 ปี หลังจากนั้นเธอเดินสายแข่งขันในทุกรายการที่พอจะไปได้ และทำผลงานได้อย่างโดดเด่นจนก้าวไปติดท็อป 10 ของโลก ในปี 2557

เส้นทางการรับใช้ทีมชาติไทยของเธอ เริ่มต้นในปี 2556 ณ เวลานั้น พลโท.ดร. เดชา เหมกระศรี เลขาธิการสมาคมจักรยานแห่งประเทศไทย เล็งเห็นความสามารถของเธอจึงได้พูดคุยกับเธอเพื่อชักชวนมาร่วมงานกับทีมชาติไทย และอะแมนด้าใช้เวลามานานก่อนจะตอบรับตัดสินใจเดินทางมายังประเทศไทยเพื่อรับใช้ชาติบ้านเกิดอีกหนึ่งบ้านของเธอ

หลังจากติดท็อป 10 ของโลกในปี 2557 เธอยังคงโชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่น ในการแข่งขันจักรยานบีเอ็มเอ็กซ์หญิง ในอินชอนเกมส์ อะแมนด้า คาร์ สามารถทำเวลาได้เป็นอันดับ 1 คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ ถือเป็นปีทองของเธอก็ว่าได้

การคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ได้สำเร็จไม่ได้ทำให้เธอหยุดพัฒนาตัวเอง เธอรู้ว่าทัวร์นาเมนท์ที่สำคัญที่สุดในชีวิตยังรอเธออยู่ เธอจึงมุ่งมั่นพัฒนาฝีมือ เร่งเก็บคะแนนสะสมให้เพียงพอต่อการคว้าโควต้าโอลิมปิกเกมส์ 2016 ให้จงได้

และแล้วความพยายามของเธอก็ส่งผลเมื่อเธอสามารถคว้าโควต้าโอลิมปิกเกมส์ 2016 มาครองได้สำเร็จ นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของความฝันของเธอ เธอยังคงมีอีกหนึ่งฝันนั่นคือการคว้าเหรียญโอลิมปิกให้ได้ เชื่อเหลือเกินว่าความพยายามบวกกับความมุ่งมั่นของเธอจะส่งให้เธอไปถึงฝั่งฝันได้ไม่ยาก 

"We are still masters of our fate. We are still captains of our souls." เราคือผู้กุมโชคชะตา เราคือผู้ขับเคลื่อนจิตวิญญาณ คติประจำใจ อะแมนด้า คาร์