“สมคิด” มั่นใจ GDP ปีนี้โตกว่า 3-4% ย้ำ 4 ปัจจัยสำคัญจุดเปลี่ยนประเทศ

by ThaiQuote, 11 มกราคม 2560

 “สิ่งสำคัญคือการเร่งสร้างความเชื่อมั่นและประคับประคองช่วยกันให้เศรษฐกิจเดินไปข้างหน้า ซึ่งหากโครงการต่าง ๆ สามารถสำเร็จได้ก็จะมีเครื่องยนต์ใหม่ ๆ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เชื่อว่า Timing มาถึงแล้วในปี 2017 ผมค่อนข้างมั่นใจ สิ่งสำคัญคือความมั่นใจทางการเมืองซึ่งส่งผลทำให้เริ่มกลับมามีความมั่นใจทีละนิด และส่งผลต่อการลงทุน การบริโภค สินค้าเกษตรก็เริ่มปรับตัวดีขึ้น” ดร.สมคิด กล่าว 

          สำหรับสิ่งที่จะเป็นจุดเปลี่ยนในปีนี้ ดร.สมคิดมองว่าประกอบด้วย 4 เรื่องสำคัญ คือ 1. การเดินหน้า Digital Economy เพราะในยุคปัจจุบันทุกอย่างจะต้องเปลี่ยนไปสู่ยุค digital และนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ปีนี้ต้องพยายามผลักดันการลงทุนอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ระดับหมู่บ้านให้เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อให้มีส่วนช่วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค การค้าขาย และการศึกษา เพราะไม่เช่นนั้นเวียดนามอาจแซงหน้าไป โดยรัฐบาลได้เตรียมงบประมาณไว้ดำเนินการ 1.5 หมื่นล้านบาทแล้ว          

          2.การผลักดันการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ (Infrastructure) โดยเน้นไปที่โครงการรถไฟทางคู่ ถนน โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ที่จะเป็นแหล่งบ่มเพาะการเกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ และเป็นแหล่งสร้างสตาร์ทอัพใหม่ ๆ ซึ่งปีที่แล้วเป็นการเตรียมความพร้อมโครงการและมั่นใจว่าจะออกกฎหมายมารองรับได้ภายในไตรมาส 1/60

          3.การพัฒนาด้านการเกษตร ซึ่งรัฐบาลจะเน้นให้เกิด Smart Farmer โดยรัฐบาลมีแนวคิดส่งเสริมให้แต่ละหมู่บ้านมีผู้นำที่มีความรู้ทาง e-commerce และ digital ต่อยอดการขายสินค้าเกษตรจากพื้นที่โดยตรง การสร้างแบรนด์สินค้าของตนเอง ซึ่งจะเป็นการช่วยส่งเสริมด้าน e-commerce ให้เกิดขึ้น และเป็นผลดีในการต่อยอดด้านโลจิสติกส์ด้วย

          4.รัฐบาลจะเน้นการกระจายงบประมาณลงสู่ระดับกลุ่มจังหวัดและจังหวัดมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลมีแผนงานโดยใช้งบกลางจำนวน 1 แสนล้านบาทในการกระจายงบไปตามกลุ่มจังหวัด ซึ่งจะให้แต่ละพื้นที่คิดยุทธศาสตร์การพัฒนาแทนคำการสั่งการจากส่วนกลาง และในปีงบประมาณ 61 จะมีการเพิ่มเม็ดเงินกลุ่มจังหวัดมากขึ้นและลดงบในส่วนกลางให้น้อยลง

          ดร.สมคิดยังกล่าวต่อว่า หลังจากนี้หน้าที่ของรัฐบาลคือการสร้างสรรค์และผลักดันทำให้ทุกโครงการเกิดความยั่งยืน ซึ่งจะลงไปตรวจการบ้านในแต่ละโครงการให้มากยิ่งขึ้นเพื่อกระตุ้นการทำงาน ส่วนโครงการขนาดใหญ่รัฐบาลให้มีการทำงานผ่านคณะกรรมการยุทธศาสตร์ เพื่อการปฏิรูปและปรองดอง โดยในวันพฤหัสบดีนี้นายกรัฐมนตรีจะเรียกประชุมเพื่อผลักดันโครงการ EEC และการจัดสรรงบกลางลงสู่ระดับจังหวัด 

          ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจโลกปีนี้ประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯจะดีขึ้นเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายของประธานาธิบดีคนใหม่ โดยเชื่อว่าจะมีผลบวกในช่วงระยะแรกส่วนเศรษฐกิจจีนมีเสถียรภาพอยู่แล้ว หากไม่มีสิ่งใดมากระทบมากก็เชื่อว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งจีนมีการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจภายใน เน้นให้เกิดสตาร์ทอัพในประเทศมากขึ้นด้วย ส่วนเศรษฐกิจยุโรปแม้ว่ายังไม่ดี แต่เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อไทยมากนัก


p.p1 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 11.0px Helvetica; -webkit-text-stroke: #000000} p.p2 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 11.0px Helvetica; -webkit-text-stroke: #000000; min-height: 13.0px} span.s1 {font-kerning: none}