“สมคิด” กระตุ้น SMEs ใช้ Local Economy ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

by ThaiQuote, 16 มกราคม 2560

ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมแนวทางบูรณาการพัฒนา SMEs ตามแนวทางประชารัฐว่า จากการที่นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เน้นให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการ SMEs โดยต้องการให้ธุรกิจ SMEs ได้มีการพัฒนาอย่างมีศักยภาพ ดังนั้นจึงได้มีการจัดประชุมหารือแนวทางในการบูรณาการพัฒนา SMEs ตามแนวทางประชารัฐ โดยมีกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank ) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นธนาคารของรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ทั้งนี้จากการประชุมได้ข้อสรุปในเรื่องของการเน้นย้ำ ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนกลุ่มจังหวัด โดยให้มีการปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการใช้กลุ่มจังหวัดเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนผู้ประกอบการในพื้นที่ของกลุ่มจังหวัดนั้น ๆ โดยจัดตั้งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบในแต่ละกลุ่มจังหวัดด้วยแนวทางประชารัฐ เช่นสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด หอการค้าจังหวัด มหาวิทยาลัยในพื้นที่ พร้อมกันนี้รัฐบาลจะอนุมัติงบประมาณกลุ่มจังหวัดเพื่อช่วยในการร่วมขับเคลื่อน ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังจะมีการจัดตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนา SMEs เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมให้มีความเติบโต แข็งแรง ซึ่งไม่ใช่แค่การปล่อยสินเชื่อ แต่จะต้องเป็นการสร้างระบบเศรษฐกิจบนฐานของผู้ประกอบการ สร้างผู้ประกอบการที่มีศัยภาพและเข้มแข็งในกลุ่มจังหวัด อย่างไรก็ตามการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ไม่ใช่เพียงแค่ในภาคการผลิตเท่านั้น แต่จะส่งเสริมในภาคบริการ การท่องเที่ยวที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งภาค SMEs การเกษตร ที่เริ่มมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยอยากให้คนในกลุ่มจังหวัดได้คืนถิ่นที่อยู่อาศัย มากกว่าจะเข้ามาทำงานในเมืองเพียงอย่างเดียว โดยจะมีการส่งเสริมให้ประกอบธุรกิจในพื้นที่ของจังหวัดที่คนเหล่นั้นอยู่อาศัย ด้านดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่ากระทรวงอุตสาหกรรมจะเริ่มทำการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงเพื่อให้สอดรับกับนโยบายเศรษฐกิจที่ส่งเสริมความเข้มแข็งในกลุ่มจังหวัด(Local Economy) และตามยุทธศาสตร์ของการพัฒนา10 อุตสาหกรรม S-Curve และโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor (EEC) สำหรับส่วนที่ 1 กระทรวงอุตสาหกรรมได้กำหนดนโยบายเพื่อให้สอดรับกับการพัฒนาจากเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น (Local Economy) ปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมจังหวัดตามแนวร่วมประชารัฐ ร่วมกับ คณะกรรมการประชารัฐที่มีอยู่ในพื้นที่จังหวัดทั่วประเทศ สถาบันการศึกษาในพื้นที่ หอการค้าจังหวัด ช่วยเหลือในด้านทักษะ ให้ความรู้กับผู้ประกอบการ SMEs โดยมีการควบคุมดูแลเรื่องงบประมาณ และเชิงนโยบายจากส่วนกลาง ในส่วนที่ 2 เรื่องของงบประมาณ กระทรวงการคลังได้ร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมในการจัดตั้ง “กองทุนเพื่อ SMEs ในแนวทางประชารัฐ” มุ่งเน้นพัฒนา SMEs ระดับชุมชน ในกรอบวงเงิน 20,000 ล้านบาท ซึ่งเริ่มต้นได้ภายใน 2 เดือนหลังจากได้รับการอนุมัติจากที่ประชุม ครม. ซึ่งจะเป็นรูปแบบของสินเชื่อ จาก ธนาคาร พัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Development Bank) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และธนาคารพาณิชย์อื่นๆ อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ที่อยู่ในเป้าหมายของกองทุนดังกล่าวมีอยู่ 3 กลุ่มด้วยกันคือ 1.กลุ่มผู้ประกอบการใหม่ที่มีแนวความคิด ต้องการเริ่มทำธุรกิจ แต่ยังคงขาดงบประมาณในการลงทุน 2.กลุ่มผู้ประกอบการเดิมที่ต้องการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต และโครงสร้างธุรกิจไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 3. กลุ่มผู้ประกอบการเดิมที่ยังคงมีศักยภาพแต่ประสบปัญหาต่างๆ ยอดขายลดลง มีปัญหาการชำระหนี้ ซึ่งการดำเนินการจะเริ่มต้นในพื้นที่กลุ่มจังหวัดที่มีศักยภาพและมีความพร้อมก่อน โดยพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ประกอบการรายเล็กที่มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น https://www.thaiquote.org/wp-admin/media-upload.php?post_id=7239&type=image&TB_iframe=1 


Tag :