ยังคงเป็นความเชื่อที่มีมาอย่างต่อเนื่องว่าการใช้ “ยาสมุนไพร”ดีกว่า “ยาแผนปัจจุบัน” กระทั่งมีใครหลายคนนิยมชมชอบใช้กันเป็นประจำ โดยเฉพาะกับยาสมุนไพรที่มีชื่อว่า “ฟ้าทะลายโจร” ด้วยสรรพคุณที่มีการระบุไว้ชัดว่าช่วยในเรื่องรักษาอาการหวัด แก้ไข้ ไม่สบาย เจ็บคอ กระหายน้ำ ไปจนกระทั่งถึงรักษาอาการท้องร่วง ปัสสาวะสีเข้ม แถมยังไม่ส่งผลเสียต่อตับ หลายคนจึงนำมาทานแก้หวัดแก้ไข้แทนยาปฏิชีวนะหรือยาแผนปัจจุบัน แต่ถึงจะระบุว่ามีประโยชน์ซะขนาดนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเหมาะกับสุขภาพของทุกคน เพราะยังมีข้อควรระวังอีกมากมายที่คุณควรทราบก่อนการทานยา “ฟ้าทะลายโจร”ก็มีอันตรายเหมือนกันนะจะบอกให้ ประการแรก ฟ้าทะลายโจรเหมาะสำหรับอาการไม่สบาย เป็นไข้แบบ “ร้อน” หมายถึงตัวร้อน เจ็บคอ ร้อนใน กระหายน้ำ เหงื่อออก ท้องผูก ปัสสาวะสีเข้ม แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นไข้แบบ “เย็น” หรือที่มีอาการอุ้งมืออุ้งเท้าเย็น ปัสสาวะปริมาณมาก หรือมีอาการหนาวสั่นมากกว่าปกติ ทั้งนี้เพราะเจ้าสมุนไพรที่ชื่อว่าฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์เย็นนั่นเอง ประการที่ 2. ไม่ควรทานยาฟ้าทะลายโจรติดต่อกันนานจนเกินไป เพราะอาจทำให้มีอาการข้างเคียง เช่น ท้องอืด อาหารไม่ย่อย แขนขาไม่มีแรง จึงไม่ควรทานฟ้าทะลายเกิน 7 วัน หากทานไป 3 วันแล้วอาการต่าง ๆ ยังไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างตรงจุดอีกครั้ง ประการที่ 3. ฟ้าทะลายโจรไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีความดันต่ำ เพราะฟ้าทะลายโจรมีคุณสมบัติช่วยลดความดันโลหิตดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องของความดันโลหิตสูงมากกว่า ประการที่ 4. ข้อที่ควรทราบเป็นพิเศษคือ สตรีมีครรภ์และสตรีที่กำลังให้นมบุตรไม่ควรทานฟ้าทะลายโจร เพราะอาจส่งผลต่อเด็กได้ ประการที่ 5 ในบางรายอาจมีอาการแพ้ยาหรือมีอาการข้างเคียงอื่น ๆ ได้เช่น ผื่นขึ้น ปากบวม หน้าบวม ตัวบวม หากแพ้มาก  ๆอาจเป็นภูมิแพ้เฉียบพลันจนช็อคเสียชีวิตได้เช่นกัน เมื่อทราบอย่างนี้แล้วคงต้องระวังกันเป็นพิเศษเพราะไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรแท้ ๆ หรือยาปฏิชีวนะ ล้วนมีข้อจำกัดในการใช้ที่ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นก่อนทานฟ้าทะลายโจรทุกครั้งควรเช็คข้อควรระวังเหล่านี้ให้ดีก่อนสายเกินแก้ ขอขอบคุณข้อมูล : นิตยสารสวนเกษตร