ถูกลากร่วมวงคดีทุจริตโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์แบบเต็ม ๆ เพราะเป็นประธานมูลนิธิที่ดำเนินโครงการดังกล่าว จากเหตุที่ทหารคนใกล้ชิดแอบกินหัวคิวจากโรงหล่อพระรูปบูรพกษัตริย์ทั้ง 7 พระองค์แถมยังพ่วงในเรื่องอื่น ๆ อีกหลายเรื่อง เช่นกรณีการปรับภูมิทัศน์ ฯลฯ ตามท้องเรื่องว่ากันอย่างนั้น งานนี้ “บิ๊กโด่ง” พล.อ.อุดมเดช สีตะบุตร รมช.กลาโหม ถูกรุมกินโต๊ะไปแบบเต็ม ๆ ก่อนเจ้าตัวจะออกมาแอ่นอกยอมรับผ่านสื่อในเวลาต่อมาว่ามีบุคคลแอบอ้างและเรียกเก็บเงินค่าหัวคิวจากโรงหล่อจริงและมีการนำเงินจำนวนดังกล่าวไปบริจาคกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  กระทั่งกลายเป็นวาทะร้อนที่ถูกจับตามองว่าอาจทำให้รัฐบาล “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ความขลังเสื่อมถอยลง เหตุเพราะกรณีดังกล่าวถือเป็นความผิดสำเร็จที่ได้เกิดขึ้นแล้ว

ขณะที่รัฐบาลทั้งนั่งยันยืนยันมาตลอดเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของกองทัพบกและมูลนิธิฯไม่เกี่ยวกับรัฐบาลแต่ประการใด  ภารกิจในการสอบสวนครั้งนี้จึงถูกพุ่งเป้าตรงไปที่กองทัพ  โดย “บิ๊กหมู” พล.อ.ธีระชัย นาควานิช ผบ.ทบ.เสนอให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องทั้งหมดภายใน 7 วัน ก่อนจะเปิดการแถลงในเวลาต่อมาว่าจากการตรวจสอบตามบัญชีพบว่ามีรายได้เข้ามากองทุนถูกต้องทุกขั้นตอน และโครงการอุทยานราชภักดิ์ไม่มีการทุจริต ดำเนินการโปร่งใส และเห็นว่าไม่ต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการป.ป.ช. และสตง.ตรวจสอบแล้ว และยังได้ระบุต่อว่าเรื่องดังกล่าวคงไม่ต้องรายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบเพราะเป็นเรื่องภายในกองทัพ

อย่างไรก็ตาม “พล.อ.ธีระชัย”ยังได้กล่าวต่อว่าจากการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีนายทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริต โดยเฉพาะทหารคนสนิทของบิ๊กโด่งแต่หากตรวจสอบเพิ่มเติมพบการทุจริตจะไม่ปล่อยเรื่องนี้อย่างแน่นอน ก่อนจะปล่อยของถึงกรณีการหักหัวคิวโรงหล่อพระบรมรูปฯว่าให้ไปสอบถามกับ “บิ๊กโด่ง” พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม เอาเอง เสมือนหนึ่งว่างานนี้เป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล ไม่เกี่ยวกับคนกองทัพ

เจอหมัดชุดต้อนเข้ามุมอย่างนี้แถมเล่นโฟกัสเข้าที่ปลายคางซะอย่างนี้  เก้าอี้รมช.กลาโหมของ“บิ๊กโด่ง”จะเป็นเช่นไร เป็นเรื้องที่น่าคิด โดยเฉพาะ “บิ๊กโด่ง”คือคนในคณะรัฐมนตรีประยุทธ์ แถมยังอยู่ในสายบูรพาพยัคฆ์ ที่มีพี่ใหญ่อย่าง “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” เป็นรมว.กลาโหมอีก    

อนึ่ง พล.อ.อุดมเดช จบการศึกษาโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 14 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 25 โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ,หลักสูตรหลักประจำ ชุดที่ 65 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร  ,หลักสูตร Integrated Past Management ประเทศอิสราเอล  ,หลักสูตร Management Broadcast Program ประเทศสหรัฐอเมริกา

                ผ่านเส้นทางในการรับราชการสำคัญ ๆมามากมาย อาทิ พ.ศ. 2521 เป็นผู้บังคับหมวดกองร้อยอาวุธเบา กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ  ก่อนถูกส่งเข้าประจำการในตำแหน่งสำคญ ๆ อาทิเช่น ผู้บังคับกองร้อยอาวุธเบา กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ,  ผู้บังคับการกรมนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร , หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ , รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ , ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ , รองผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ , ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 ,พ.ศ. 2551 ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ,พ.ศ. 2552 รองแม่ทัพภาคที่ 1 ,พ.ศ. 2553 แม่ทัพภาคที่ 1 ,พ.ศ. 2555 เสนาธิการทหารบก ,พ.ศ. 2556 รองผู้บัญชาการทหารบก ,1 ตุลาคม พ.ศ. 2557 - 30 กันยายน พ.ศ. 2562 ผู้บัญชาการทหารบกคนที่ 38 ,  22 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ราชองครักษ์พิเศษ

 เครดิตภาพ ... news.voicetv.co.th