ล้านคนพูด! หรือจะสู้ลงมือทำ

by ThaiQuote, 8 พฤษภาคม 2560

หลาคนมักพูดว่า “ช่วงนี้เป็นช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ อยู่เฉยๆดีกว่า” และปล่อยเวลาให้ผ่านไปปีแล้วปีเล่า โดยไม่ได้ลงทุนหรือทำอะไรเลย ต่างจากเขาคนนี้ที่มักจะลงทุนในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ โดยไม่สนใจคำทักท้วงจากคนอื่น เราไปฟังความคิดของ ดำรงค์ พิณคุณ นักเขียนหนังสือแนวสร้างสรรค์กำลังใจ ผู้นำเข้าเก้าอี้นวดไฟฟ้าคนแรกของเมืองไทย ยี่ห้อ RESTER ว่าเขามีความคิดแตกต่างจากคนอื่นอย่างไร

อยากให้เล่าความเป็นมาสักเล็กน้อย?

ผมเริ่มต้นทำงานเป็นพนักงานขายในบริษัทเอกชนหลังเรียนจบปริญญาตรี ขายคาร์บอนแบล็ค เป็นผงดำๆใช้เป็นส่วนผสมหลักในยางรถยนต์ ยางปัดน้ำฝน อุปกรณ์พลาสติกที่เป็นสีดำทั้งโลกใช้คาร์บอนแบล็คทั้งหมด ผมขายผงคาร์บอนแบล็คอยู่ประมาณ 3 ปี ถือว่าเป็นเซลล์ที่มียอดขายมากที่สุดในอุตสาหกรรมนั้น ยอดขายปีหนึ่งประมาณ 500 ล้านบาท

ทำไมจึงเลือกทำงานขาย?

ผมคิดว่าถ้าอยากประสบผลสำเร็จการทำธุรกิจส่วนตัวในอนาคต ผมจำเป็นจะต้องขายของให้เป็น ขายอะไรก็ได้ พอเรียนจบมีคนรับผมเข้าทำงานหลายอย่าง ผมก็ปฏิเสธไป เพราะว่าไม่ใช่สิ่งที่เราฝันไว้ว่าบันไดขั้นแรกควรจะเริ่มจากการขายของให้เป็นก่อน ขายน้ำดื่ม อาหาร เสื้อผ้า ต้องเริ่มต้นจากการขาย หลายคนกลัวการขาย มองว่าอาชีพขายของไม่ดี ดูด้อยค่า แต่ผมต่างจากคนอื่น ผมเรียนจบการตลาดมา แต่ฝักใฝ่หาแต่งานขาย พอขายเป็นอย่างหนึ่ง เราก็รู้แล้วว่าเทคนิคการเข้าหาคนเป็นยังไง การพรีเซ็นต์สินค้าทำยังไง เมื่อผมขายสินค้าอย่างหนึ่งได้ หลังจากนั้นอยากขายอะไรก็ได้ ทำบริษัทแรกได้ 3 ปีจึงเปลี่ยนงานเพราะอยากรู้เรื่องอิมปอร์ตเอ็กซปอร์ต เริ่มต้นไปเข้าไปอบรม แต่เรียนแล้วทำไม่เป็น เลยคิดว่าไปหาทำงานกับบริษัทอิมปอร์ตเอ็กซปอร์ตดีกว่า ไปคลุกคลีอยู่กับชีวิตแบบนี้อีกประมาณสองปี พอปี 2541 อยากจะเริ่มทำธุรกิจซักอย่างหนึ่ง แต่ไม่รู้จะเริ่มทำธุรกิจแบบไหนดี จึงไปค้นในอินเตอร์เน็ต ซึ่งการหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตในยุคปี 2541 ช้ามาก สัญญาณติดๆดับๆ สุดท้ายพบว่าเก้าอี้นวดยังไม่มีในเมืองไทย จึงตัดสินใจนำเข้าเก้าอี้นวด ซึ่งมีแต่คนทักท้วง เพราะเป็นช่วงเศรษฐกิจฟองสบู่แตก 

ไม่ลังเลกับเสียงทักท้วงบ้างหรือ?

ตอนนั้นเราอายุ 26 ก็เหมือนกับเด็กธรรมดาคนหนึ่งที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจ แต่ยังไม่มั่นใจพอ ไปถามผู้ใหญ่ก็มีแต่คนบอกว่าไม่รู้หรือว่าอยู่ในช่วงฟองสบู่แตก ใครเขาจะมาลงทุนกัน แล้วเก้าอี้นวดเป็นยังไงก็ไม่รู้จัก เราก็อธิบายให้ฟังว่านวดๆคลึงๆเหมือนคนนวด เขาบอกว่าแบบนี้ไปนวดกับมือคนไม่ดีกว่าเหรอ ราคาตัวละเท่าไหร่ ประมาณแสนหนึ่งครับ  พอได้ยินราคาทุกคนยิ่งตกใจ เขาไปนวด 2 ชั่วโมงแค่ 250 บาท ทำไมต้องมาจ่ายแพงขนาดนั้น ถามมา 100 คน มีแต่คนพูดแบบนี้ แต่เพราะความเป็นเด็กดื้อ มีแรงฮึด อยากจะทำ

ตอนนั้นคิดยังไง?

คิดว่าจริงๆแล้วไม่เกี่ยวกับคำพูดของคนอื่น มันเกี่ยวกับตัวเราเอง แม้จะมีคนเป็นล้านบอกว่าคุณทำได้ แต่ใจคุณไม่สู้ ไม่กล้าที่จะทำ ก็ทำไม่ได้ แต่ถ้าคนล้านคนบอกว่าคุณทำไม่ได้ แต่คุณเชื่อว่าคุณทำได้ คุณก็ทำได้ ผมจึงไปขอยืมเงินคุณพ่อตามา 3 แสนบาท มีพนักงานแค่ 3 คน เวลาผ่านไป 4 ปี ผมมีพนักงาน 100 คน มีรายได้ในปีนั้น 120 ล้านบาท ผมทำได้ทั้งที่เศรษฐกิจแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย ถ้าผมทำได้ คุณก็ทำได้ คุณอย่าไปเชื่อคนที่บอกว่าคุณทำไม่ได้

นำเข้าเก้าอี้จากที่ไหน?

โรงงานที่ผมเลือกคือโรงงานใหญ่สุดในไต้หวัน และสินค้าราคาแพงที่สุด โดยนั่งเครื่องบินไปเจรจาที่โน่น เล่าอย่างไม่อายเลยว่าเป็นการนั่งเครื่องบินครั้งแรกในชีวิต ไม่รู้เลยว่าเขาติดต่อซื้อขายกันยังไง ปกติขายอย่างเดียว แต่คราวนี้ต้องไปซื้อ พอไปถึงก็มีเจ้าหน้าที่อินเตอร์เนชั่นแนลเทรดมานั่งคุยกับเรา นั่งคุยสักพักเจ้านายเขาซึ่งเป็นประธานบริษัทเดินมา เขาก็คุยภาษาจีนกัน จากนั้นท่านประธานก็นั่งลงคุยกับผม เขาพูดประโยคแรกว่า ทุกคนจะซื้อกับเขาครั้งละ 2 ตู้คอนเทนเนอร์ ทำไมเขาถึงต้องขายให้ผมด้วย เพราะผมซื้อแค่ 5 ตัว แล้วยังต้องติดยี่ห้อ RESTER ของผมอีก เราก็งงเพราะไม่ได้ตั้งตัว ก็ตอบว่าผมไม่มีเงินซื้อครั้งละ 1-2 ตู้คอนเทนเนอร์ ผมซื้อได้แค่ 5 ตัว เยอะกว่านี้ไม่ได้ เพราะไม่มีเงิน แต่คุณเชื่อไหมว่าถ้าผมทำตามบิสิเนสแพลน ผมจะขายให้คุณได้มากกว่าปีละ 100 ตัว พูดพร้อมยื่นบิสิเนสแพลนให้ เขาหยิบแล้วขอเวลาแปบหนึ่ง เดินไปที่ห้องเปิดบิสิเนสแพลนพร้อมกดเครื่องคิดเลข เรามองเห็นไกลๆ ไม่ถึง 5 นาทีเดินกลับมา เขาบอกว่าที่ขอซื้อมาหลายรุ่นเขาขายให้รุ่นเดียวคือเก้าอี้นวดรุ่นหยอดเหรียญจะเอาไหม ผมบอกว่าเอา ก่อนกลับผมถามอินเตอร์เนชั่นแนลเทรดว่า ผมรู้ว่าผมเป็นเจ้าเล็กที่สุด ซื้อแค่ 5 ตัว ผมอยากรู้ว่าประเทศไหนใหญ่ที่สุดและซื้อปีละกี่ตัว เขาบอกว่าอเมริกา ซื้อปีละ 1,200 ตัว ผมก็จำเป็นข้อมูล กลับมาถึงเมืองไทย ผมก็ขาย ตอนแรกลงโฆษณาตามสื่อ แบบหลักสูตรการตลาด ขายไม่ได้เลย เงินซื้อของก็จะหมดอยู่แล้ว เหลือหน่อยเดียว พอดีมีงานของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สมัยนั้นเรียกว่ากรมส่งเสริมการส่งออก) ชื่องาน เฮลท์แอนด์บิวตี้ เขาตอ้งการช่วยเหลือเอสเอ็มอี ปกติค่าบูธ 3x3 ตารางเมตร คิด 4 หมื่นบาท แต่เขาคิดกับเอสเอ็มอี 5,000 หรือ 8,000 บาท (ไม่แน่ใจ) เราก็เลยมีเงินไปออกบูธ เอา 5 ตัวไปวาง ปรากฏว่ามีคนสนใจเข้ามาถามเยอะมาก มาทดลองเก้าอี้นวด เพราะเป็นของใหม่ ผ่านไป 1 ปีผมขายได้ 100 กว่าตัว ปีที่ 2 ขายได้เกิน 600 ตัว ปีที่ 3 ขายได้ 1,200 ตัว เก้าอี้หยอดเหรียญที่วางตามห้างสมัยก่อนเป็นของผมเจ้าเดียว หลังจากขายได้มากแล้ว กลับไปไต้หวันอีกครั้ง ไปถึงสนามบินไต้หวัน ท่านประธานยืนรอ เข้ามากอด พาไปทานอาหารทุกมื้อ ผิดกับครั้งแรกลิบลับ

เท่ากับว่าประสบความสำเร็จเร็วตามเป้าหมาย?

พออายุ 30 ผมก็มีเงินตามที่ทุกคนอยากจะมี ใช้ชีวิตแบบที่คนรวยทำกัน เพราะเราไม่เคยเป็นอย่างนั้น แต่ปรากฏว่าไม่มีความสุข ผมเคยลองพิสูจน์ 3 เดือนไม่ทำงานเลย ให้ลูกน้องทำทั้งหมด ใช้ชีวิตอย่างสบาย ไปฟิตเนส เดินห้าง ดูหนัง ปรากฏว่ายิ่งนานวันยิ่งเครียด ต้องกินยาพาราเซตามอล ไม่มีความสุขเหมือนตอนทำงาน

หลังจากลงทุนนำเข้าเก้าอี้นวดไฟฟ้าแล้วทำอะไรอีก?

ในปี 2551 เป็นยุคแฮมเบอเกอร์ไครซิส เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา หลายคนบอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี แต่สำหรับผมคำว่าเศรษฐกิจไม่ดีอยู่ไกลกันมาก อยู่ที่อเมริกา แต่ที่นี่คือประเทศไทย ถ้าคุณมองว่าแฮมเบอเกอร์ไครซิสแย่ ปี 2541 แย่กว่า ประกอบกับตั้งแต่ผมเรียนหนังสือจบมาได้ยินคำว่าเศรษฐกิจไม่ดีมาตลอด จึงไม่กลัวคำว่าวิกฤติเศรษฐกิจ ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือ จึงอยากเขียนหนังสือ ไปเรียนการทำอาร์ตเวิร์ค 7 วัน กลับมาเขียนหนังสือ จัดอาร์ตเวิร์คเอง พอทำเสร็จโทรศัพท์ไปเสนอสำนักพิมพ์ เขาแจ้งส่วนแบ่งรายได้ ผมบอกว่ามันน้อยไป เลยเปิดสำนักพิมพ์เองเลย ชื่อว่า RESTER BOOK พิมพ์เล่มแรก “เกาสมอง” พิมพ์ทั้งหมด 26 ครั้ง ทั้งที่ลงทุนในปีแฮมเบอเกอร์ไครซิส

หนังสือของเราแตกต่างจากคนอื่นตรงไหน?

ถ้าอยากโดดเด่นต้องทำในสิ่งที่ยังไม่มีคนทำ ตอนผมทำเก้าอี้นวดก็ยังไม่มีคนทำ หนังสือที่ผมทำจึงต้องต่างจากคนอื่น หนังสือส่วนใหญ่เน้นตัวหนังสือมากกว่าภาพ แต่หนังสือของผมเน้นภาพมากกว่าหนังสือของคนอื่น คือทำยังไงให้คนจำได้ว่าเป็นหนังสือของผม

ข้อคิดสำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากทำธุรกิจส่วนตัว?

อันดับแรกต้องรับผิดชอบตัวเองให้ได้ก่อน ต้องรู้จักการเรียนรู้ หางานทำ มีเงินเก็บ หลังจากนั้นค่อยมาทำตามความฝัน สร้างสรรค์สินค้าให้แตกต่างจากคนอื่น กล้าเผชิญปัญหาอุปสรรค ไม่ถอดใจง่ายๆ 

ดำรงค์  พิณคุณ

Tag :