สูตรเด็ด! “กินบุฟเฟ่ต์” อิ่มได้ไม่เสียสุขภาพด้วย 14 เทคนิค

by ThaiQuote, 2 มิถุนายน 2560

“อาหารบุฟเฟ่ต์” ปัจจุบันยังเป็นกระแสความนิยม บางร้านไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าต้องรอคิวกว่าชั่วโมงเพื่อเข้ารับประทาน เหตุนี้จึงสะท้อนให้เห็นว่า “บุฟเฟ่ต์” ได้เข้ามาเป็นวัฒนธรรมการบริโภคของสังคมไทยไปแล้ว ด้วยตัวเลือกที่หลากหลายสามารถกินได้แบบไม่อั้น “อาหารบุฟเฟ่ต์” จึงกลายเป็นอาหารยอดนิยมของกลุ่มคนทำงานออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษา โดยการกินบุฟเฟ่ต์ส่วนใหญ่มักจะคิดถึงความคุ้มทุนโดยจะพยายามกินอาหารปริมาณมาก หรือเลือกกินอาหารราคาแพงเพื่อจะให้คุ้มค่ากับราคา  วันนี้เรามีคำแนะนำดีๆ ที่จะทำให้ทุกครั้งที่คุณกินบุฟเฟ่ต์ ทำให้คุณอิ่มคุ้มค่าแถมไม่เสียสุขภาพด้วย

  1. กินน้อยก่อนกินมาก จำให้ขึ้นใจเลยว่าการอดอาหารเพื่อกะไปกินบุฟเฟต์กับเพื่อนๆให้คุ้มนั้นไม่คุ้มอย่างที่คิด’ เพราะนอกจากจะทำให้ร่างกายลดการเผาผลาญพลังงานลงแล้ว ยังอาจรู้สึกหิวมากเกินไปตอนไปกินบุฟเฟต์ ดังนั้นควรเลือกกินอาหารในแต่ละมื้อให้น้อยลงก่อนไปกินบุฟเฟต์สัก 1 วัน หรือ 1-2 มื้อ (ถ้าหิวมากจนอดใจไม่ไหวก็ควรกินผลไม้หรือดื่มนมไขมันต่ำ และตามด้วยน้ำเปล่ารองท้อง) แต่ถ้ามีเหตุให้ต้องไปกินแบบไม่ทันได้เตรียมตัวก็ควรลดอาหารในวันหลังจากนั้นให้น้อยลง
  2. ‘ลุกเดิน’ วอร์มอัพก่อนหรือหลังกินบุฟเฟต์ ‘การเดิน’ เป็นกิจกรรมทางกายที่ง่ายสุด ๆ ฉะนั้นจะลุกขึ้นมาเดินเพิ่มขึ้น 20-30 นาที ประมาณ 5-7 วัน ก่อนหรือหลังไปกินบุฟเฟต์ ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินความสามารถ
  3. เสื้อผ้าก็สำคัญ ควรใส่เสื้อผ้าที่พอดีตัวไม่ควรใส่ชุดหลวม ๆ เพราะเราอาจเพลิดเพลินกับอาหารจนกินเกินอิ่มได้ง่าย ๆ
  4. ไกลไว้ดีกว่าใกล้ การเลือกที่นั่งไกลจากซุ้มอาหารช่วยให้เราได้เพิ่มการใช้พลังงานทุกครั้งที่เดินมาตัก
  5. สำรวจร้านเตรียมรับมือ ชิงเดินสำรวจอาหารทั้งหมดให้เรียบร้อย เพื่อที่จะได้วางแผนการรบกับกองทัพอาหารได้ถูกว่าควรเลือกเอาอะไรใส่ปากบ้าง และไม่ต้องเจอกับสถานการณ์ประเภท ‘อิ่มแล้ว แต่เพิ่งเดินมาเห็น’ แถมยังได้เดินเพิ่มก้าวอีกเล็กน้อยด้วย
  6. จานเล็กช่วยได้ การหยิบจานเล็กใส่อาหารเหมือนไม่น่าจะช่วยอะไรเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้มีการศึกษามาแล้วและพบว่าการลดขนาดจานลง 2 นิ้ว ช่วยให้เรากินอาหารลดลงถึงร้อยละ 22
  7. สลัดมาจานแรก ควรเลือกตักสลัด (น้ำสลัดน้อย ๆ) เป็นจานแรก
  8. ไม่ติดมัน ไม่เอาน้ำผัด ควรเลือกกินเนื้อสัตว์ประเภทต้มหรือนึ่ง ถ้าปิ้งย่างก็ไม่เอาแบบไหม้เกรียม ส่วนพวกเนื้อติดมัน น้ำผัด และชุบแป้งชุบไข่ทอดนี่อยู่ให้ห่างไว้
  9. ตักเผื่อล้นโต๊ะ การมีน้ำใจถือเป็นสิ่งดีแต่การตักเผื่อคนอื่นเวลากินบุฟเฟต์นั้น อาจทำให้มีอาหารล้นโต๊ะ ควรตักอาหารแต่ละชนิดไม่เกิน 1-2 ช้อน และตักทีละจานก็พอแล้ว
  10. ผ้าเช็ดปากเตือนสติ แค่เอาผ้าเช็ดปากมาวางไว้บนตักเราก็สามารถรู้ตัวทุกครั้งเวลาที่ลุกไปตักอาหาร และจะได้บังคับตัวเองไม่ให้ลุกจนเพลิน
  11. สนทนาละความสนใจ มากินบุฟเฟต์ทั้งทีจะเน้นกินอย่างเดียวก็คงกระไรอยู่ควรหันไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมโต๊ะให้มากขึ้น จะได้ช่วยดึงความสนใจของเราออกจากอาหารและกินอาหารได้น้อยลง
  12. น้ำเปล่าดีที่สุด น้ำหวาน น้ำผลไม้ หรือน้ำอัดลมก็ล้วนเป็นเครื่องดื่มเพิ่มแคลอรีทั้งนั้น เพราะฉะนั้นหันมาดื่มน้ำเปล่าดีกว่า
  13. ตัดทิ้งแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์นอกจากจะทำให้เรามีภาวะขาดน้ำแล้ว ยังกระตุ้นให้เราดื่มน้ำหรือกินอาหารเพิ่มขึ้นฉะนั้นเมินได้ก็เมินเถอะ
  14. โปรดระวังไขมันแอบแฝง หลีกเลี่ยงไขมันแอบแฝงซึ่งซุกซ่อนอยู่ใน เนย น้ำสลัด (ไม่ว่าจะเป็น น้ำใสหรือน้ำข้น) รวมถึงเกลือแอบแฝงที่อยู่ในบรรดาซอสต่าง ๆ (ซอสพริก ซอสมะเขือเทศ) หรือกระทั่งครีมทาร์ทาร์ และน้ำจิ้มเอง ก็ควรจิ้มให้น้อยที่สุด

    การกินอาหารที่ดีจะต้องใส่ใจว่าเรากินเข้าไปมากน้อยเพียงใด รู้จักการควบคุม “แคลอรี่” หรือปริมาณพลังงานของอาหารที่กิน โดยผู้ชายควรได้รับพลังงานประมาณวันละ 2,000 กิโลแคลอรี และผู้หญิง วันละ 1,600 กิโลแคลอรี ปริมาณที่ว่านี้รวมทั้งอาหารคาวและหวาน อาหาร 1 มื้อควรได้แคลอรี่ประมาณ 400-700 กิโลแคลอรี่ โดยอาหารเย็นเป็นมื้อที่มีแคลอรีต่ำกว่ามื้ออื่น ๆ อาหารว่าง ต้องจำกัดให้น้อยกว่า 200 กิโลแคลอรีในแต่ละครั้ง และเมื่อรวมกับอาหารมื้อหลักทั้งวันแล้วต้องไม่เกินปริมาณที่กำหนด ลด หรืองดอาหารที่ให้พลังงานสูง อาหารรสจัด และเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง เพราะไม่ว่าจะเป็นอาหารบุฟเฟ่ต์ หรืออาหารทั่วไปก็ตาม หากกินมากเกินไปก็สามารถทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ มากมาย ความคุ้มค่าของราคาและปริมาณ อาจเทียบไม่ได้กับค่ารักษาพยาบาลที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้นกินอย่างพอดี เสริมกิจกรรมทางกาย เพื่อสุขภาพที่ดีกัน

Tag :