“นกเขาไม่ขัน”ปัญหาระดับชาติ ป้องกันยังไงไปฟังคุณหมอ

by ThaiQuote, 26 สิงหาคม 2560

พ.ต.ท.นพ.สุรัติ กิตติศุภพร นพ.สบ.2 ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินปัสสาวะ สำนักงานศัลยกรรม โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า "ปัญหานกเขา"ถือเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้ชาย เพราะนอกจากจะทำให้สูญเสียความมั่นใจแล้วยังเป็นสัญญาณเตือนภัยโรคร้ายต่าง ๆ แต่ผู้ชายส่วนใหญ่มักจะไม่ยอมรับว่าตัวเองเกิดภาวะนกเขาไม่ขัน เสื่อมสมรรถภาพทางเพศเพราะผู้ชายจะเป็นเพศที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง โดยปัจจุบันตรวจพบว่าผู้ชายอายุเฉลี่ยเริ่มพบตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไปที่มีความเสี่ยงต่อภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย อาการจะคล้าย ๆกับผู้หญิงวัยทอง โดยสังเกตง่าย ๆ ดังนี้ คือ 1.มีอาการคล้ายซึมเศร้า 2.นอนไม่หลับ 3.หงุดหงิดง่าย 4.อวัยวะเพศไม่แข็งตัว 5.อ้วนลงพุงซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดโรคนี้ คือ 1.ความเสื่อมของร่างกาย 2.ความเครียดจากการทำงาน 3.ปัญหาเรื่องสุขภาพ อาทิ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และ 4.ความผิดปกติของต่อมใต้สมอง สำหรับแนวทางการรักษาโรคนกเขาไม่ขัน หรือภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายจะรักษาไปตามขั้นตอน คือแพทย์จะทำการเจาะเลือดเพื่อตรวจค่าฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งเวลาที่ฮอร์โมนเพศชายจะหลั่งเยอะที่สุดคือช่วง 8.00-11.00 น. ถ้าค่าฮอร์โมนมากกว่า 3.4 นาโนกรัมถือว่าปกติ แต่ถ้าต่ำกว่า 3.0 นาโนกรัมคือ ผิดปกติต้องเข้ารับการรักษาเพราะหากปล่อยให้เรื้อรังจะส่งผลกระทบต่อปัญหาด้านสุขภาพ คือคนไข้จะมีความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดอุดตัน, โรคกระดูกพรุน และโรคคล้ายซึมเศร้า เมื่อตรวจฮอร์โมนแล้วแพทย์ก็จะให้การรักษาโดย1.ให้ยาปรับเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย เมื่อปรับเพิ่มฮอร์โมนแล้วไม่ดีขึ้นก็เข้าสู่ขบวนการบำบัด โดยให้ยาในกลุ่ม Phosphodiesterase-5 inhibitors หรือไวอาก้า เพื่อรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ทำให้องคชาตแข็งตัวขึ้น 2.รักษาโดยการฉีดยาเข้าองคชาตก่อนมีเพศสัมพันธ์จะช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัว แต่การรักษาด้วยวิธีนี้ดูเป็นที่หวาดเสียวจนไม่ได้รับความนิยม และหากยังไม่ได้ผลแพทย์จะแนะนำวิธีการสุดท้ายคือ 3.การฝังแกนเทียมในอวัยวะเพศ วิธีนี้เป็นวิธีการที่หวาดเสียวที่สุด เจ็บตัวเยอะสุด วิธีการรักษานี้ได้ผลดี แต่ราคาแพงมาก อย่างไรก็ดีปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีในปัจจุบันมาปรับใช้ในการรักษาโรคนกเขาไม่ โดยการนำเทคโนโลยี Shockwave หรือการใช้คลื่นเสียงที่มีความเข้มต่ำแบบแรงกระแทกจากภายนอก (Low-Intensity Extracorporeal Shock Wave Therapy : LI-ESWT) ไปกระตุ้นบนอวัยวะเพศของผู้ป่วย เป็นผลทำให้เกิดการสร้างหลอดเลือดฝอยใหม่เพิ่มขึ้นในอวัยวะเพศจากหลอดเลือดเดิม และทำให้สิ่งที่เกาะตามเส้นเลือดเก่ากะเทาะหลุดออก เมื่อหลอดเลือดในอวัยวะเพศทำงานได้ดีขึ้น การตื่นตัวและการขยายของอวัยวะเพศจึงมีประสิทธิภาพมากขึ้น นับเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะผิดปกติการแข็งตัวของอวัยวะเพศ เป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง ไม่ต้องเสี่ยงอดทนต่อผลข้างเคียงจากการรักษาด้วยการใช้ยาเหมือนอดีต ด้าน นายธีธัช เลาหบุญญ์ กรรมการบริหาร คลินิกเวชกรรมเลาหบุญญ์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าปัจจุบันวงการแพทย์ได้นำเทคโนโลยี "Shockwave Therapy" (ช็อคเวฟเทอราปี) หรือการใช้คลื่นเสียงที่ว่า มารักษาผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องอวัยวะเพศไม่แข็งตัว โดยคลื่นเสียงที่ยิงเข้าไปบริเวณอวัยวะเพศตามจุดที่กำหนดไว้จะไปสลาย หินปูน และแคลเซียมและอื่นๆที่เกาะอยู่บริเวณหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงอวัยวะเพศชาย ทำให้มีการไหลเวียนของเลือดที่ดีขึ้น นอกจากนี้แล้วยังมีผลในระยะยาวที่จะไปช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือดฝอยใหม่ในอวัยวะเพศ เมื่อเลือดสามารถไหลไปหล่อเลี้ยงอวัยวะเพศได้สะดวกและมากขึ้น การแข็งตัวของอวัยวะเพศจึงได้รับการฟื้นฟูให้ค่อย ๆดีขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ดีในบางกรณีของคนไข้ แพทย์อาจจะสั่งจ่ายยาในกลุ่ม Phosphodiesterase-5 inhibitors เพื่อหวังผลในการรักษาที่ดีขึ้นและเร็วขึ้น ควบคู่ไปกับการรักษาฟื้นฟูด้วยเทคโนโลยี Shockwave นวัตกรรม "Shockwave Therapy" (ช็อคเวฟเทอราปี) ถูกค้นพบในปี ค.ศ.1970 เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูง แรกเริ่มแพทย์ได้นำคลื่นเสียงช็อคเวฟมาใช้รักษาผู้ป่วยที่เป็นนิ่ว โดยนำคลื่นเสียงมายิงเพื่อสลายนิ่วในระบบทางเดินปัสสาวะ และในไต เพื่อหลีกเลี่ยงการผ่าตัด ผู้ป่วยไม่ต้องเจ็บตัว ต่อมาวงการแพทย์ได้ประยุกต์โดยการนำคลื่นเสียงช็อคเวฟมาใช้ในการบำบัดความเจ็บปวดในกล้ามเนื้อ จนเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปถึงประสิทธิภาพในการบำบัดอาการปวด รวมไปถึงการรักษาอาการปวดจากการนั่งทำงานในออฟฟิต หรือ ออฟฟิตซินโดม และในปัจจุบันวงการแพทย์เริ่มให้ความสนใจในการประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (ED)มีงานสนับสนุนด้านวิจัยออกมาอย่างต่อเนื่องซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูอาการ ED ดังกล่าว จนเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในกลุ่มแพทย์ทางเดินปัสสาวะ โดยเฉพาะประเทศในแถบยุโรป สมาคมแพทย์ทางเดินปัสสาวะของยุโรปได้อนุมัติให้นำนวัตกรรมช็อคเวฟมารักษาโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ นกเขาไม่ขัน อย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ปี 2013 นอกจากนี้แล้วเริ่มมีงานวิจัยที่นำ คลื่นเสียงช๊อคเวฟมาใช้ในการรักษาแผลที่เกิดจากเบาหวานที่ปกติรักษายากและไม่หาย จนต้องตัดมือ ตัดขา กันในอดีต เริ่มมีการนำคลื่นเสียงมายิงกระตุ้นที่แผลให้เกิดกระบวนการสร้างเส้นเลือดใหม่มาหล่อเลี้ยงแผล ซึ่งแผลที่มีเส้นเลือดใหม่มาหล่อเลี้ยง จะมีสภาพที่ดีขึ้น เนื้อใหม่ๆจะเริ่มเกิดขึ้นมาแทนเนื้อเก่าที่ตายแล้ว แผลจึงมีโอกาสหายได้ จึงเป็นการลดโอกาสที่ผู้ป่วยเบาหวานจะต้องถูกตัดอวัยวะของร่างกายจนกลายสภาพเป็นการพิการทางร่างกาย ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงพยาบาลเพียงไม่กี่แห่งที่นำเครื่องมือชนิดนี้มาใช้ในการรักษาโรคดังกล่าวข้างต้น พ.ต.ท.นพ.สุรัติ กิตติศุภพร กล่าวปิดท้ายว่าสาหรับผู้ชายที่อายุ 35 ปีขึ้นไป ที่มีอาการคล้ายซึมเศร้า, นอนไม่หลับ,หงุดหงิดง่าย, อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ควรรีบมาพบแพทย์ ตรวจเช็คอาการเบื้องต้น เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด แพทย์จะแนะนำแนวทางรักษาให้โดยเร็ว ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเป็นสัญญาณเตือนว่า คุณกาลังเป็นโรคเกี่ยวกับ โรคอ้วน , โรคเบาหวาน , โรคหัวใจ เป็นต้น หากปล่อยไว้จะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตระยะยาว ดังนั้นจึงอยากให้ผู้ชายทุกคนหันมาใส่ใจสุขภาพ ด้วยวิธีง่ายๆ ดังต่อไปนี้ 1.พักผ่อนให้เพียงพอ 2. ทานอาหารที่มีประโยชน์ 3.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ 4.งดสูบบุหรี่ 5.หลีกเลี่ยงความเครียดและหมั่นตรวจเช็คสุขภาพทุกปี และสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพและอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ สามารถโทรมาปรึกษาและขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-9613157-8 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.
Tag :