“เปียโน”ผิดคีย์

by ThaiQuote, 16 ธันวาคม 2558

เหนืออื่นใดสนามการเมืองกรุงเทพฯ ณ เวลานี้ถือเป็นฐานที่มั่นสำคัญของพรรคปชป.ที่ถูกจับตามองตลอด ขณะที่คนที่ออกมาแฉข้อมูลกลับกลายเป็นคนจากพรรคเดียวกัน กินข้าวหม้อเดียวกัน และที่สำคัญไปกว่านั้น“คุณชายหมู”จัดเป็นลูกหม้อแฟนพันธุ์แท้แห่งพรรคแม่ธรณีบีบมวยผมที่เติบโตบนเส้นทางการเมืองมายาวนาน ประเภทที่ว่าได้ดิบได้ดีก็เพราะพรรคการเมืองนี้ เช่นเดียวกับอีกฟากหนึ่งของชีวิตเขายังได้ชื่อว่าเป็นนักวิชาการ และมีบทบาทสำคัญ ๆ มากมาย

“สุขุมพันธุ์”เป็นโอรสในพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุขุมาภินันท์ กับหม่อมดุษฎี บริพัตร ณ อยุธยา มีน้องชาย 1 คน คือม.ร.ว. วโรรส บริพัตร ผ่านการสมรสมาแล้วถึง 2 ครั้งโดยครั้งแรกกับนุชวดี บำรุงตระกูล มีบุตรคืออาจารย์ ดร. หม่อมหลวงพินิตพันธุ์ บริพัตรส่วนครั้งที่สองสมรสกับนางสาวิตรี บริพัตร ณ อยุธยา (สาวิตรี ภมรบุตร) มีบุตรคือ หม่อมหลวงวราภินันท์ บริพัตร

ถ้าพูดถึงภาพลักษณ์ในการทำงานตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองก็ดี หรือแม้แต่เมื่อต้องมาทำหน้าที่เป็นผู้ว่าฯของคนกรุงเทพฯ ด้วยบุคลิกที่ดูเป็นคนเรียบร้อย สุภาพอ่อนโยนผนวกกับความเป็นราชสกุลทำให้มักถูกมองจากสังคมว่า “คุณชาย”ทำงานไม่ติดดินโดยเฉพาะกับบทบาทการเป็นผู้นำขององค์กรอย่างกทม.ที่จะต้องทำงานในลักษณะการประสานสิบทิศกับคนในและนอกองค์กร บางครั้งจึงมักจะได้เห็นวิวาทะในการทำงานเช่นกรณีวิกฤตมหาอุทกภัยเมื่อช่วงปลายปี 54  

ขณะที่ในอีกมุมหนึ่งของชีวิตจะมีใครสักกี่คนที่รู้ว่าเขาเป็นแฟมิลี่แมน มักจะใช้ชีวิตยามว่างกับครอบครัว ประการสำคัญก็คือ “คุณชาย”ยังได้ชื่อว่าเป็นบุคคลที่สุขนิยม อย่างแท้จริง

“สำหรับผมคิดว่าคนเราต้องครอบครัวเข้มแข็ง ให้ลูกสามารถเติบใหญ่ในสภาพแวดล้อมที่ดีได้ ลูกไม่มีสิทธิเลือกที่จะเกิดหรือไม่เกิด เราเป็นคนทำให้เกิด เราจึงต้องทำให้เขาเติบใหญ่ในสภาพแวดล้อมที่ดีได้ อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญ คือ ผมเชื่อว่าคนทำงานต้องมีครอบครัวที่เข้มแข็ง ถ้าที่บ้านมีปัญหาแล้วครอบครัวไม่เข้มแข็ง คนเราก็จะมีความพร้อมในการทำงานที่ไม่สูงนักดังนั้นครอบครัวจึงเป็นฐานสำคัญที่ทำให้เราทำหลายสิ่งหลายอย่างได้สำเร็จ

พอมาเป็นผู้ว่าฯ กทม. สิ่งที่ขาดหายไปก็คือเวลาที่ได้นั่งอยู่กับบ้านกับครอบครัว ผมเป็นคนรักบ้าน ชอบกินข้าวบ้าน ชอบทำกับข้าว เวลาตรงนั้นก็หายไป อาหารที่ชอบโชว์ฝีมือส่วนใหญ่จะเป็นอาหารฝรั่ง อาทิ ไก่งวงยัดไส้ ไก่ซอสขาว ซึ่งเขาบอกว่าที่บ้านมักชมว่าอร่อย ที่ผมทำอาหารเป็นเพราะไปอยู่เมืองนอกมานาน และต้องดูแลน้อง ๆ ไปด้วย เลยต้องทำอาหารเป็นทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง จำได้ว่าสมัยที่เรียนอยู่ที่ประเทศอังกฤษ คุณย่าเคยไปเยี่ยม คุณย่าเกือบเป็นลมที่เห็นผมทำอาหารได้อย่างคล่องแคล่ว จากที่แต่ก่อนแค่เจียวไข่ยังทำไม่เป็นเลย

อย่างไรก็ตามในความเป็นผู้ที่เน้นสุขนิยม “คุณชาย” ยังเคยเล่าถึงการพักผ่อนของตนเองว่ายังทำเหมือนเดิมเพียงแต่อาจจะมีเวลาน้อยกว่าเดิม ยามว่างก็ดูหนัง ฟังเพลง  อ่านหนังสือ โดยเฉพาะกับเรื่องของความเครียดนั้นตนเป็นคนที่เครียดไม่นานอาจจะเครียดสักนิดเดี๋ยวก็หายแล้ว คิดว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะตนเป็นคนที่มีอารมณ์ขัน และมีความตระหนักในหน้าที่อย่างไรก็ต้องทำหน้าที่อยู่แล้วจะเครียดไปทำไม เครียดมันเป็นลบมากกว่า งานก็ต้องทำอยู่แล้ว เครียดก็ต้องทำ ไม่เครียดก็ต้องทำ ดังนั้นไม่เครียดไม่ดีกว่าเหรอ

 และนี่คือเรื่องราวของ “ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร” ผู้ว่าฯกทม.ยามที่พิษมรสุมการเมืองกำลังถาโถมเข้าใส่อย่างหนัก จากกรณีการจัดซื้อเปียโนมูลค่ากว่าพันล้านบาทแจกโรงเรียนในสังกัดกทม.ซึ่งบทสรุปของเรื่องนี้จะลงเอยอย่างไรเป็นเรื่องที่ต้องตามกันต่อ โดยเฉพาะอนาคตของ “คุณชายหมู”จากนี้ไป จะเป็นดังคำพูดที่เขาเคยกล่าวไว้หรือไม่ เพราะสถานภาพทางการเมือง ณ วันนี้เสมือนหนึ่ง “เปียโน”ที่เล่นผิดคีย์

ชีวิตของนักการเมืองไม่แน่นอน วันนี้อยู่สูง อีกวันหนึ่งอาจจะตกต่ำสุดก็ได้ นักการเมืองเวลาขึ้นก็ขึ้นสูงได้อย่างมากเวลาตกก็ตกอย่างไม่เป็นท่าเลย ดังนั้นชีวิตจึงไม่แน่นอน

ที่มา : Thaiquote