“รสนา” โวย อนุญาตให้ โฆษณากัญชา แต่ห้ามคนไทยปลูก

by ThaiQuote, 21 มิถุนายน 2562

“รสนา” โพสต์เฟซบุ๊ค ถาม อนุญาตโฆษณากัญชา โดยไม่อนุญาตคนไทยปลูก เอื้อต่างชาติ ใช่หรือไม่ ชี้ อย.ทำหน้าที่ หนุนนักวิจัย เร่งรับรองตำรับยาพื้นบ้าน ดีกว่า เตรียมการนำเข้า

น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว โดยระบุข้อความว่า “อนุญาตโฆษณากัญชา โดยไม่อนุญาตคนไทยปลูก เพื่อสอดรับการนำเข้ากัญชาจากบริษัทต่างชาติ ใช่หรือไม่!?
ข่าวว่า คณะรัฐมนตรี เห็นชอบ หลักการร่างกฎกระทรวง ของกระทรวงสาธารณสุข เรื่องขออนุญาต – ออกใบอนุญาตโฆษณากัญชา โดยวางหลักเกณฑ์ 6 ข้อนั้น

มีคำถามว่าเหตุใดต้องรีบร้อนออกกฎกระทรวงเรื่องนี้ ทั้งที่เวลานี้ยังไม่อนุญาตให้คนไทยปลูก จึงมีคำถามว่าที่รีบอนุมัติการออกกฎกระทรวงโฆษณากัญชา เพื่อสอดรับกับการนำเข้ายากัญชาเพื่อการค้าจากบริษัทยาต่างชาติ ใช่หรือไม่?

ทั้งนี้ อาจเป็นไปได้หรือไม่?ว่า การอนุมัติโฆษณากัญชาสอดคล้องกับข่าวคำให้สัมภาษณ์ของรองเลขาธิการ อ.ย เมื่อ2-3อาทิตย์ที่ผ่านมาว่า “ด้าน นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย. ชี้แจงว่า จากข้อมูลผู้มาแจ้งครอบครองมีประมาณ 22,000 คน ร้อยละ 90 แจ้งว่าเป็นผู้ป่วย เบื้องต้นน่าจะประมาณ 2,000-3,000 คน ที่มีความจำเป็นต้องใช้กัญชาเร่งด่วน...โดยเป็นการนำเข้ากัญชาในช่วงสั้นๆ ตามข้อสั่งการของคณะกรรมการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากกัญชาเพื่อการศึกษาวิจัยและประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ และ รมต.ยุติธรรมเป็นประธาน ซึ่งได้สั่งการให้สามารถนำเข้ากัญชาได้หากมีความจำเป็นในการนำมาให้ผู้ป่วยระหว่างที่รอผลผลิตตามกฎหมาย”
อันที่จริง ภารกิจของอย.น่าจะรีบสนับสนุนให้กลุ่มนักวิจัยได้รับอนุญาตเพื่อเดินหน้าการวิจัยต่อไปโดยเร็ว หมอยาพื้นบ้านหรือตำรับยาพื้นบ้านควรจะได้รับการรับรองโดยเร็ว การรับรองตำรับยาแผนไทย ควรผลักดันให้มีการผลิตยากัญชาเพื่อการพึ่งพาตนเองในประเทศก่อน ไม่ใช่เตรียมการนำเข้า และวิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์การเกษตรควรจะได้รับอนุญาตให้ปลูกวัตถุดิบกัญชาโดยเร็ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการออกประกาศหลักเกณฑ์ให้คนไทยสามารถปลูกกัญชาได้ และยังไม่มีหน่วยงานใดที่มีงานวิจัยกัญชา ที่สามารถผลิตเป็นยาออกมาใช้กับผู้ป่วยได้

การรีบร้อนออกกฎกระทรวงในการโฆษณากัญชานั้น จึงถูกตั้งข้อสงสัยว่า น่าจะเป็นการเกื้อหนุนการโฆษณาในทางการค้าของบริษัทยาต่างชาติ ที่มีความพร้อมในการนำเข้าตามกฎกระทรวง 6ข้อดังกล่าว เช่น บริษัท GW ฟาร์ม่า ที่เคยมาขอสิทธิบัตรกัญชา และถูกคัดค้านจากประชาชน จนคสช.ต้องออกมาตรา44 ให้กรมทรัพย์สินทางปัญญายกเลิกคำขอสิทธิบัตรกัญชาของบริษัทดังกล่าว ใช่หรือไม่?

นี่อาจเป็นนิทานเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ของรัฐบาล ใช่หรือไม่ ?ที่เมื่อไม่สามารถเปิดทางให้บริษัทต่างชาติได้สิทธิบัตรกัญชาก่อนคนไทย ก็ให้นำเข้ายาของบริษัทเหล่านั้นมาใช้เสียเลย หลังจากนั้นบริษัทยาอาจจะอ้างสิทธิว่ายาที่นำเข้ามาใช้เป็นยามีสิทธิบัตรที่นักวิจัยไทยไม่สามารถพัฒนาตำรับยาในแบบเดียวกับเขา และอาจจะถูกกล่าวหาฟ้องร้องว่าลอกเลียนสิทธิบัตรของเขาได้หรือไม่ ยังเป็นเรื่องที่หน่วยงานรัฐต้องตอบคำถามนี้ โดยสุจริตและอย่างตรงไปตรงมา