อูฐจำนวน 10,000 ตัว กำลังถูกทางการฆ่าตายในเขตภัยแล้งของประเทศออสเตรเลีย เนื่องจากอูฐกำลังเป็นอันตรายต่อแหล่งน้ำประชาชน

ขณะนี้ทั่วโลกกำลังเป็นห่วงชีวิตของสัตว์หลากชนิดที่ต้องบาดเจ็บ-ตายจากวิกฤติการณ์ไฟป่าออสเตรเลีย อย่างโคอาล่า, จิงโจ้ และสัตว์ป่าอื่นๆ ได้กลายเป็นไวรัลบนโลกโซเชียลจนติดเทรนด์โลก แต่ในขณะเดียวกันนั้น ก็มีสัตว์อีกชนิดหนึ่ง ที่ต้องถูกคำสั่งให้ฆ่า-กำจัดทิ้งกว่า 10,000 ชีวิต ด้วยเหตุเพื่อที่จะหยุดพวกมันไม่ให้มาแย่งน้ำ อ้างว่าเพราะพวกมันดื่มน้ำมากเกินไป

เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2563 จากกรณีที่เพจ สัตว์ : สิทธิและโอกาส – THAILAND ANIMAL RIGHTS ALLIANCE ได้โพสต์เรื่องราว ” ตลกร้ายในวิกฤติการณ์ไฟป่าออสเตรเลีย วันนี้จะมีการเริ่มฆ่าอูฐกว่า 10,000 ตัวทิ้ง ด้วยเหตุผลที่”พวกมันดื่มน้ำมากเกินไป “

โดยสำนักข่าว CNN รายงานว่า เจ้าหน้าที่ชาวอะบอริจินในเขตตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐเซาท์ออสเตรเลียอนุมัติให้มีการฆ่าอูฐเมื่อวันพุธที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 5 วันในการฆ่าอูฐกว่า 10,000 ตัว ซึ่งอูฐเหล่านี้จะถูกยิงโดยนักยิงปืนมืออาชีพบนเฮลิคอปเตอร์ ในพื้นของ Anangu Pitjantjatjara Yankunytjatjara (AYP) จากสถานการณ์ที่ต้องเผชิญทั้งไฟป่าและแห้งแล้งแบบนี้ เพื่อที่จะหยุดพวกมันไม่ให้มาแย่งดื่มน้ำ เป้าหมายของการลดจำนวนของสัตว์นี้ เกิดขึ้นหลังจากชุมชนร้องเรียนว่าอูฐป่าจรจัดได้บุกรุกเข้าไปในที่ดินของพวกเขาเพื่อค้นหาแหล่งน้ำ เนื่องจากอูฐนั้นดื่มน้ำมากจนเกินไปในสถานการณ์แห้งแล้งแบบนี้

“ด้วยสภาพแห้งแล้งในปัจจุบันการขยายพันธุ์ของอูฐขนาดใหญ่ ซึ่งไปคุกคามชุมชน APY จึงมีความจำเป็นต้องมีการควบคุมประชากรของอูฐ"

ทั้งนี้ภูมิภาค APY อยู่ในพื้นที่ห่างไกลทางใต้สุดของประเทศออสเตรเลียและมีประชากร มีเพียง 2,300 คนที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคนี้ ซึ่งรัฐนี้มีขนาดประมาณเท่ากับรัฐเคนตักกี้ของสหรัฐอเมริกา โดยเชื่อกันว่ามีอูฐมากกว่า 1 ล้านตัวในออสเตรเลียและประชากรอูฐในประเทศมีการขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว

โดยก่อนหน้านี้ในปี 2554 เคยมีข่าวการฆ่าอูฐ 100,000 ตัวในออสเตรเลีย โดยอ้างว่าพวกมันเป็นต้นเหตุของมลพิษทางอากาศ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่ามันเป็นการโยนความผิดให้แก่พวกมันอย่างไร้ความเมตตา ล่าสุด ทางการเมืองจิงโจ้กำลังคิดจะกำจัดอูฐ 10,000 ตัว เพื่อจะบรรเทาความรุนแรงของปัญหาความแห้งแล้งจากวิกฤติไฟป่า ครั้งนี้พวกมันถูกตั้งข้อหาว่า "กินน้ำเยอะ"

ทั้งนี้แม้อูฐจะเป็นสัตว์ต่างถิ่น (Exotic species) ในออสเตรเลีย ที่ตั้งแต่ยุคตอนบุกเบิกอาณานิคม มีการนำอูฐเข้ามาเลี้ยงใช้เพื่อประโยชน์ให้กับมนุษย์มากมาย ชีวิตของอูฐต่างได้ทำคุณประโยชน์ให้ออสเตรเลีย จนรัฐบาลส่งเสริมอุตสาหกรรมฟาร์มอูฐ ไม่ว่าจะเป็นนม เพื่อผลิตเนื้อส่งออกขาย หรือเพื่อการส่งเสริมการท่องเที่ยว จนกระทั่งมีการหลุดและการปล่อยอูฐเข้าป่าไปกลายเป็นสัตว์ป่า (Feral camels) กลายเป็นต้องมาแย่งชิงทรัพยากรกับสัตว์ประจำถิ่น (Native species) และชาวออสเตรเลียบางส่วนมองเห็นว่า อูฐป่าเป็นสัตว์ที่รบกวนและทำความเสียหายให้พวกเขา

อย่างไรก็ตาม ต้นเหตุที่มาของอูฐป่าที่ถูกมองว่าคือตัวปัญหาเหล่านั้นก็มาจากน้ำมือมนุษย์ แต่ในยามที่มนุษย์เกิดปัญหาในเรื่องธรรมชาติลงโทษ มนุษย์จะหาทางโทษสิ่งมีชีวิตอื่นเสมอ ยิ่งหากการนั้นก็ไม่เป็นธรรมกับสัตว์ จึงเกิดคำถามมากมายไปทั่วโลก ว่ามันสมเหตุสมผลไหมที่ประเทศใดที่จะฆ่าสัตว์ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวและอยากมีชีวิตรอดชนิดหนึ่ง เป็นนับพันนับหมื่นชีวิตทิ้ง เพื่ออ้างถึงการช่วยเหลือชีวิตอื่นๆ? นี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดที่เราจะควรรับได้หรือไม่?

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

"หม่อมเต่า" เผยมีตำแหน่งงานว่าง 80,000 ต่อวัน สมัครผ่าน google ได้