ชั่วโมงนี้โครงการก้าวคนละก้าวของ “ตูน บอดี้สแลม” เพื่อระดมทุนซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้กับ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ กำลังฮอตฮิตเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ นอกจากจะเป็นหัวข้อในวงสนทนาเกือบทุกวงแล้ว ยังกลายเป็นแรงบันดาลใจปลุกกระแสการรักสุขภาพด้วยการวิ่งขึ้นมากอีกครั้ง สำหรับการวิ่ง คือการออกกำลังที่ทำได้ง่าย ไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย แค่คุณมีรองเท้าดีๆ 1 คู่ ก็พร้อมที่จะออกกำลังกายด้วยการวิ่งได้แล้ว โดยข้อมูลจากกรมอนามัยระบุว่าการวิ่งด้วยวิธีที่ถูกต้อง คือ 1.ศรีษะ ต้องตั้งตรงเป็นแกนเดียวกับลำตัว  สายตามองตรงไม่เกร็งกล้ามเนื้อคอ

2. ลำตัวและไหล่ สำตัวตั้งตรงไม่งอหรือพับช่วงเอว และขณะวิ่งทิ้งน้ำหนักตัว และเอนไปข้างหน้าเล็กน้อย ลำตัวต้องไม่ส่ายไปมา ส่วนไหล่ปล่อยตามสบาย ไม่เกร็งหรือยกไหล่สูง

3.มือและแขน กำมือหลวมๆ เกร็งข้อมือเล็กน้อย ป้องกันการสะบัดข้อมือไปมา แขนไม่เกร็งและแกว่งตัดเข้าลำตัวเล็กน้อย ตามจังหวะของการวิ่ง โดยจังหวะแกว่งแขนไหล่เป็นจุดหมุนพร้อมดึงข้อศอกไปข้างหลัง 4.เข่าและเท้า ลงน้ำหนักเท้าที่กลางเท้าหรือปลายเท้า โน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ก้าวเท้าไม่เกินแนวลำตัว ปลายเท้าขนานหรือชี้ลงพื้น เข่าย่อก่อนสัมผัสพื้น ไม่ควรก้าวเท้ายาวแล้วลงส้นเท้า เพราะจะเพิ่มแรงกระแทกมากกว่าปกติ 5.การหายใจขณะวิ่ง ให้หายใจเข้า 2-3 ช่วงต่อการหายใจเข้า 1 ครั้ง ส่วนการหายใจออก ให้ปล่อยลมหายใจออกมาอย่างลื่นไหล ปากไม่เม้ม การหายใจที่ถูกวิธี ช่วยให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ระบบต่างๆของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ขณะเดียวกันการออกกำลังกายแบบง่ายๆนี้ กลับมีประโยชน์ มหัศจรรย์ถึง 10 ประการด้วยกัน โดยน.อ.(พิเศษ) นพ.ไพศาล จันทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส โรงพยาบาลกรุงเทพ สายกิจกรรมพิเศษ กล่าวว่า การวิ่งถือเป็นการออกกำลังกายที่ดี หรือ “Running is Medicine” กีฬาคือยาวิเศษ ชัยชนะแห่งสุขภาพและทุกเป้าหมายชีวิต ทั้งนี้ควรสนับสนุนให้ทุกคนวิ่งเพื่อร่างกายที่แข็งแรง ให้การออกกำลังกายเป็นเกราะป้องกันโรค โดยการวิ่งสามารถสร้าง 10 ประโยชน์มหัศจรรย์ให้กับร่างกาย ได้แก่

1. หัวใจ การวิ่งและการออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการทำงานระบบไหลเวียนโลหิต
2. กล้ามเนื้อ การวิ่งเป็นการฝึกการใช้งานกล้ามเนื้อ ทำให้นักวิ่งมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงขึ้น
3. ไขมัน การวิ่งทำให้อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ในช่วงโมดีเรต (Moderate) หรือชีพจรเต้นอยู่ที่ร้อยละ 75-85 นักวิ่งจะรู้สึกเหนื่อยในระดับปานกลาง ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันออกมาใช้ได้ถึงร้อยละ 60
4. เข่า การวิ่งที่ถูกวิธีอย่างต่อเนื่อง จะเพิ่มการหมุนเวียนน้ำหล่อเลี้ยงภายในข้อ
5. คอเลสเตอรอล การวิ่งช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี(LDL) ได้ 5-10%
6. สมอง ยิ่งวิ่งออกกำลังกายมากเท่าไหร่ ร่างกายก็ยิ่งหลั่งสารบำรุงสมองมากเท่านั้น
7. เหงื่อ จะถูกหลั่งออกมาพร้อมสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า เอ็นดอร์ฟิน เป็นสารเคมีในร่างกายที่ทำให้รู้สึกอารมณ์ดี
8. น้ำตาลในเลือด สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวาน หากออกกำลังกายอย่างถูกวิธีจะช่วยควบคุมและลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีขึ้น
9. ระบบข้อ การวิ่งที่เหมาะสมต่อร่างกาย จะช่วยลดปัญหาข้อต่อเสื่อม ลดอาการปวดข้อและป้องกันการเกิดข้อแข็ง(Stiffness)
10. ความดัน การวิ่งช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูงได้