โอ้แม่เจ้า !ขอทานดูไบฟันเดือนละ 2.5 ล้าน...รวยกว่าผู้บริหาร

by ThaiQuote, 22 พฤษภาคม 2559

สำนักข่าว Thaiquote สืบค้นข้อมูลผ่านหน่วยงานเพื่อสังคมถึงธุรกิจขอทานในเมืองไทย ก็ต้องพบกับความน่าตระหนกว่า ขอทานบางคนมีเงินเก็บหลายล้านบาท ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดเพราะเงินที่ได้มาจากการบริจาคด้วยความเต็มใจ แต่เนื่องจากรายได้ดังกล่าวได้มาโดยง่ายแลกกับความสงสารของคน กลายเป็นช่องว่างให้ขบวนการค้ามนุษย์จากประเทศเพื่อนบ้านนับหมื่นคน เล็ดลอดเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย รวมกลุ่มเช่าบ้านตามชุมชนแออัด (ราคาค่าเช่า 500-2,000 บาท/เดือน) ขโมยเด็กมาบังคับให้ขอทานตามจุดต่าง ๆ หรือไม่ก็ว่าจ้างเด็กจากพ่อแม่ที่ยากจนเป็นรายวัน ๆละ 20 บาท ปล่อยตามจุดที่มีผู้คนสัญจรหนาแน่น อาทิ ห้างสรรพสินค้า ตลาดนัด สถานีขนส่ง ฯลฯ ขอทานตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึง 3 ทุ่ม โดยมีเป้าหาเงินให้ได้ไม่ต่ำกว่า 200 บาท ใครทำไม่ได้ก็จะถูกลงโทษตามผลงาน

โดยเฉพาะเด็กในสังกัดที่ไม่ได้ว่าจ้างจากข้างนอก แต่โดยเฉลี่ยถ้าอยู่ในทำเลหนาแน่น เด็กแต่ละคนจะมีรายได้เฉลี่ย 700-1,500 บาท/คน/วัน ทำให้แก๊งค์ขอทานแพร่ระบาดจนกำจัดไม่หมด มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 100-150 ล้านบาทต่อปี สร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของเมืองไทยทั้งในด้านการท่องเที่ยวและอาชญากรรม แม้จะมีการณรงค์ให้เลิกบริจาคทานกับคนเหล่านี้ แต่เพียงพักเดียวผู้คนก็ควักเศษเหรียญหยอดขันเก่า ๆเหล่านั้นด้วยความสงสาร โดยหารู้ไม่ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นอาจเป็นบาป ไม่ใช่ บุญ

                ใช่เฉพาะในเมืองไทยเท่านั้นแต่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศร่ำรวยอย่างตะวันออกกลาง ก็มีขอทานแพร่ระบาด ยกตัวอย่างนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แม้จะมีการจับกุมอยู่บ่อย ๆ แต่ก็ไม่หมดสิ้น เนื่องจากรายได้อันเย้ายวน ชนิดที่ว่าเห็นตัวเลขแล้วต้องอึ้งกิ่มกี่กันเลยทีเดียว เพราะรายได้ของขอทานย่านเศรษฐกิจในดูไบบางคนทำรายได้มากถึง 2.59 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งขอทานในดูไบเป็นคนต่างชาติที่ขอวีซ่าเข้าไปท่องเที่ยวได้ครั้งละ 3 เดือน เท่ากับว่ามีโอกาสทำเงินได้ถึง 6 ล้านบาทก่อนกลับบ้าน โอว!!! เห็นตัวเลขแบบนี้เลยไม่แปลกใจว่าทำไมถึงกล้าเสี่ยงคุกเข้าไปขอทานในตะวันออกกลาง

ที่มา : thaiquote