บอร์ดสตาร์ทอัพ หวังดึงทุนกว่า 1,000 ล้านUS$

by ThaiQuote, 7 ธันวาคม 2560

นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติ (National Startup Committee: NSC) (คณะกรรมการฯ) ได้เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 4/2560 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560 เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 ของปี 2560 ตามแผนการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้นของประเทศไทย (พ.ศ. 2559 – 2564) พร้อมทั้ง ได้พิจารณาการขับเคลื่อนแผนการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) ของประเทศไทย ซึ่งมีประเด็นที่สำคัญ ดังนี้

  1. ร่างพระราชบัญญัติพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นและนวัตกรรมเชิงนโยบาย พ.ศ. ....

คณะกรรมการฯ ได้เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นและนวัตกรรมเชิงนโยบาย พ.ศ. .... (ร่าง พ.ร.บ.) ของคณะทำงานเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น (คณะทำงานชุดที่ 2) ที่มีสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติเป็นฝ่ายเลขานุการ โดยร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุน แก้ไขข้อจำกัดและอุปสรรคต่าง ๆ ที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนาของระบบนิเวศในการสนับสนุน Startup (Startup Ecosystem) โดยมีการกำหนดขอบเขตคำนิยามของ Startup ไว้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นและนวัตกรรมเชิงนโยบาย ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน เพื่อทำหน้าที่กำหนดนโยบายและแนวทางการส่งเสริมและพัฒนา Startup ของประเทศไทย รวมทั้ง จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะด้าน 2 คณะ ได้แก่ (1) คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น ซึ่งมีหน้าที่จัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการรับรองวิสาหกิจเริ่มต้น รวมทั้ง พิจารณาให้และเพิกถอนสิทธิประโยชน์แก่ Startup ที่ได้รับการส่งเสริม และ (2) คณะกรรมการพัฒนานวัตกรรมเชิงนโยบายเพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลโครงการทดสอบและพัฒนานวัตกรรมเชิงนโยบาย (Regulatory Sandbox) ซึ่งเป็นโครงการที่เปิดโอกาสให้ Startup ประเภทนิติบุคคลและนิติบุคคลอื่นในทุกสาขาสามารถนำเสนอสินค้าและบริการภายในพื้นที่หรือสภาพแวดล้อมของการประกอบธุรกิจและการให้บริการที่จำกัดภายใต้กรอบหลักเกณฑ์การกำกับดูแลที่ยืดหยุ่น ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะทำงานชุดที่ 2 นำเสนอร่าง พ.ร.บ. ต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป

  1. โครงการ Startup Club ในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา/อาชีวศึกษา

โครงการ Startup Club ในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา/อาชีวศึกษา ที่ได้จัดตั้งขึ้นตามดำริของรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) มีความคืบหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบัน มีโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา/อาชีวศึกษาได้เข้าร่วมโครงการ Startup Club แล้วรวม 109 สถาบันใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ และได้เริ่มดำเนินกิจกรรมแล้ว 17 สถาบันใน 15 จังหวัด รวมทั้ง ได้มีการจัดทำ Facebook Page “Startup Club Thailand” https://www.facebook.com/startupclubth) เพื่อเป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์กิจกรรมของคณะกรรมการฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่าง Startup Club ทั่วประเทศ นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ได้เห็นชอบโครงการพัฒนาครูและบุคลากรในสถาบันการศึกษาระดับมัธยมศึกษาที่รับผิดชอบ Startup Club ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ครูและบุคลากรที่เกี่ยวข้องให้สามารถถ่ายทอดกระบวนการและแนวความคิดด้านการประกอบการให้แก่เด็กนักเรียนได้ โดยจะเป็นกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ จำนวน 6 ครั้ง ตามภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมทั้ง ได้เห็นชอบชุดเอกสารมาตรฐาน ซึ่งประกอบด้วยหนังสือและสื่อออนไลน์ในประเด็นการเป็นผู้ประกอบการ Startup ความรู้ทางการเงิน และภาษี ที่จะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียน และตารางกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Startup สำหรับปี 2561 เพื่อให้สามารถใช้เป็นแหล่งความรู้และฐานข้อมูลในการดำเนินการ ซึ่งจะทำให้ Startup Club เป็นแหล่งเรียนรู้ ค้นคว้า และพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการสำหรับนักเรียนอย่างยั่งยืน โดยการจัดทำชุดเอกสารและตารางกิจกรรมดังกล่าว คณะกรรมการฯ ได้รับการความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ เป็นอย่างดี และได้กำหนดจะส่งมอบชุดเอกสารมาตรฐานพร้อมตารางกิจกรรมข้างต้นให้กับ Startup Club ภายในเดือนธันวาคม 2560

  1. ผลงานอื่น ๆ ที่สำคัญของคณะกรรมการฯ ในปี 2560

3.1 จากการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ ที่ได้เน้นส่งเสริมด้านการสร้างความตระหนักรู้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การบ่มเพาะ และการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ส่งผลให้เว็บไซต์ PeoplePerHour ซึ่งเป็นผู้จัดอันดับ Startup City Index ได้จัดให้ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 7 ของโลก และอันดับที่ 1 ของเอเชียในการเป็นเมืองเพื่อเริ่มต้นธุรกิจ Startup โดยพิจารณาจากความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) ต้นทุน และคุณภาพชีวิต 3.2 การแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ใน 4 ประเด็น (การแก้ไขเพิ่มเติมให้บริษัทจำกัดดำเนินการได้ในประเด็นหุ้นกู้แปลงสภาพ การทยอยให้หุ้น (Vesting) สิทธิที่จะซื้อหุ้นในราคาที่กำหนด (ESOP) และหุ้นบุริมสิทธิ) มีความคืบหน้าเป็นที่น่าพอใจ โดยคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการของร่างกฎหมายเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 และปัจจุบัน ร่างพระราชบัญญัติ ฯ ดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนของการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา

  1. แผนการดำเนินงานในปี 2561

การจัดงาน Startup Thailand 2018 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 17 - 20 พฤษภาคม 2561 ภายใต้แนวคิด “Invest Nation” โดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจใหม่ในประเทศไทยที่ดำเนินธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด และดึงดูดเงินลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ โดยตั้งเป้าหมายให้เกิดการลงทุนกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงผลักดันให้เกิดนักรบใหม่ทางเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถขยายตลาดไปสู่ตลาดต่างประเทศ   นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ได้มอบหมายให้คณะทำงานเพื่อเสนอแนะนโยบายและมาตรการภาครัฐเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจเริ่มต้น (คณะทำงานชุดที่ 4) หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาภาพรวมของปัญหาในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ Startup ในแต่ละระยะ เพื่อสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงกับความต้องการของ Startup มากยิ่งขึ้น. ปลัดกระทรวงการคลังระบุว่าตามแผนและโครงการดังกล่าวคาดว่าจะนำมาซึ่งเงินลงทุนจากต่างชาติที่จะเข้ามาสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวกับ Startup และนวัตกรรมไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Tag :