ดร.สมคิด กล่าวว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่ครองสัดส่วนถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ของจีดีพี เป็นมูลค่าที่ไม่น้อย ทุกคนรู้ดีว่าเมืองไทยมีความโดดเด่นเรื่องท่องเที่ยว มีอาหารอร่อย ผู้คนสุภาพ ร่าเริง มีจิตใจให้การต้อนรับ แม้ว่าจะมีข้อด้อยอยู่บ้างแต่ภาพรวมถือว่าเหนือกว่าที่อื่นมาก ประเด็นคือเราต้องขยายผลการท่องเที่ยวให้ออกดอกออกผลไปสู่ทุกคน ตามนโยบายลดการเหลื่อมล้ำด้วยการท่องเที่ยวที่เป็นนโยบายหลักของรัฐบาล “ผมยกตัวอย่าง มีนักท่องเที่ยว 34 ล้านคน แต่ไปกระจุกที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ตจนแทบระเบิด ไม่มีการกระจายรายได้ ที่จริงเราจะปล่อยไปตามกลไกธรรมชาติให้รายได้ค่อยๆ กระจายไปยังเมืองรองก็ได้ แต่ตอนนี้เราต้องสร้างทางลัดให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด” รองนายกรัฐมนตรีกล่าว พร้อมกับเสริมว่า ปีหน้ารัฐบาลต้องการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก ไม่ได้เน้นการพัฒนาไปที่ตัวสินค้า แต่จะเริ่มจากพื้นที่ ผลผลิต ความร่วมมือของชุมชน ผลักดันให้เมืองรองมีความก้าวหน้า ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เรามีแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้มาก แต่กลับไม่ได้ทะลวงลงไป ต้องจัดลำดับความสำคัญ บางแห่งทำได้ทันที แต่บางแห่งต้องรอเวลาให้พัฒนาเติมเต็ม ขอยกตัวอย่างที่จ.เพชรบุรี มีวัดมาก ขนมอร่อย แต่กลับเป็นเพียงทางผ่าน ฝ่ายบริหารท้องถิ่นต้องกลับไปคิดว่าจะทำอย่างไร หมู่บ้านไหนทำได้ต้องชี้เป้าให้ชัด ยุคนี้การท่องเที่ยวโดยรถไฟก็เป็นแนวโน้มที่น่าสนใจ ถ้าหากเรามองถึงการพัฒนาสนามบินต้องใช้เวลานานเป็นปี  ขณะนี้กรมทางหลวงชนบทเข้าไปลาดยางมะตอยทำถนนให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวให้ได้ก่อน ในเรื่องจุดแวะพักก็สำคัญ เดินทางไปเขาค้อ 4 ชั่วโมง สองข้างทางไม่มีอะไรเลย ททท. ต้องอย่าคิดแค่ปั๊ม ต้องผลักดันท้องถิ่นให้มีร้านค้าก็ส่งเสริมการกระจายรายได้ ดร.สมคิด กล่าวต่อว่า เราต้องฟื้นฟูและสร้างเรื่องราวเอกลักษณ์ในแต่ละชุมชนให้น่าสนใจ ร้านโอทอปไม่จำเป็นเลย เราต้องสร้างคุณค่าให้นักท่องเที่ยวเข้าไปยังแหล่งผลิต ซึ่งเราจะต่อยอดสร้างแหล่งท่องเที่ยวชุมชนได้อีก อาหารไทยมีหลากหลาย ไม่ต้องรอฝรั่งมามอบมิชลินสตาร์ ถ้าเราเอาจริงเอาจัง ก็จะเอาประชารัฐเข้ามาช่วยทุกท่าน ถ้าจังหวัดไหนทำนำร่องก็จะมีจังหวัดอื่นทำตามเอง นายสมคิด กล่าวต่อว่า “ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน ซึ่งผมดูแลหลายกระทรวง จะพยายามให้มีการเกื้อกูลกันและกันให้มากที่สุด ขณะนี้เราพ้นบ่วงอุปสรรคจาก 3 ปีที่ผ่านมาแล้ว เมื่อไม่กี่วันก่อน อียูก็ให้การยอมรับเราแล้ว ผมเชื่อว่าจะเป็นสถานการณ์ที่ช่วยเอื้อเราในอนาคตแน่นอน และในขณะนี้ผมก็พยายามเคลียร์งานให้เสร็จ เรื่องรถไฟไทย – จีน ก็ลงเสาแน่สัปดาห์หน้า รถไฟรางคู่ก็ผลักดันเข้า ครม. เร็วๆ นี้ เรื่องการบินไทย แอร์บัส ก็แน่นอนภายในศุกร์นี้ ปีนี้ประเทศเราถือว่าปรับฐาน ซึ่งเราก็เข้าใกล้มาเลเซียมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่เขาทิ้งเราเป็น 10 – 20 ปี ผมการันตีว่าปีหน้าเราเทกออฟแน่นอน ถ้าไม่เหยียบตาปลากันเอง” สำหรับนโยบายด้านกีฬา นายสมคิดกล่าวว่า เราต้องพัฒนาศักยภาพตั้งแต่เด็กและเยาวชน เพราะเป็นวัยที่กำลังตื่นตัว ส่วนรายละเอียดอื่นเรื่องกีฬาก็ต้องรอ พล.อ. ประวิตร ก่อน แล้วจะมาประชุมกันทีเดียว ภายหลังจากการแถลงมอบนโยบายการดำเนินงาน นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว. การท่องเที่ยวฯ ได้กล่าวต่อสื่อมวลชนว่า หลังจากได้ฟังนโยบายในวันนี้ ก็ได้คาดเดาไว้แล้วว่าต้องสอดคล้องกับนโยบายที่ตั้งไว้ ทั้งเรื่องพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและชักชวนให้นักท่องเที่ยวเข้าไปยังชุมชน ซึ่งหากทุกคนร่วมมือกัน เราจะมีความสุขในฐานะเจ้าบ้านที่ดีแน่นอน