“สมคิด”ย้ำ ตร.ท่องเที่ยวโซ่ข้อกลางท่องเที่ยวไทย

by ThaiQuote, 14 ธันวาคม 2560

ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษพิธีเปิดการอบรมตำรวจท่องเที่ยวและอาสาสมัครช่วยเหลือนักท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการอำนวยความสะดวกและให้บริการนักท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และสนับสนุนความเชื่อมั่นเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2560 ณ ศูนย์การประชุม อิมแพค เมืองทองธานี โดยกล่าวว่า ในปีหน้ารัฐบาลต้องการให้การท่องเที่ยวเป็นเสาหลักของเศรษฐกิจที่จะกระจายความเจริญและกระจายรายได้เข้าสู่ชุมชน โดยในลำดับแรกให้ความสำคัญกับเมืองรองที่เป็นทางผ่านของจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักก่อน เพราะการคมนาคม และการเดินทางเอื้ออำนวยมากที่สุด

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อยากจะยกบทบาทของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นกระทรวงเกรดเอ ทั้งนี้เพราะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นรถคันใหญ่ เป็นอุตสาหกรรมใหญ่ของประเทศ ปัจจุบันแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเข้าสู่ประเทศไทยไม่น้อยกว่า 30 ล้านคน หรือคิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งคือมีรายได้เป็น 1 ใน 5 ของรายได้ทั้งหมดของประเทศ

“การส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้นถือได้ว่าเป็นจุดแข็งของประเทศ เพราะไทยเรามีแหล่งธรรมชาติ วัฒนธรรม วิถีชีวิต ประชาชนมีความเป็นมิตร ไม่จำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยี การท่องเที่ยวของเราก็ดำเนินไปได้ เพราะคนไทยเรายิ้มแย้มแจ่มใส อาหารอร่อย อันนี้เป็นข้อได้เปรียบของเรา” ดร.สมคิดกล่าว

ดร.สมคิดกล่าวว่า การท่องเที่ยวไม่ใช่แค่รายได้ของกลุ่มท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว แต่มันหมายถึงสินค้าและอุตสาหกรรมในซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โรงแรม ขนส่ง บันเทิง ร้านอาหาร การเกษตร ล้วนตอบสนองการท่องเที่ยว ถ้านักท่องเที่ยวมามาก อานิสงส์จะแผ่กระจายไปทั่ว และในที่สุดก็จะมาถึงคนฐานราก เกษตรกร

การท่องเที่ยวจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้ดี  เราต้องการเผื่อแผ่ไปให้เมืองรอง แต่ต้องมีคนไปชี้แนะเขา ทำให้เศรษฐกิจท้องถิ่นฟื้น เราไม่มีเจตนายัดเยียดการท่องเที่ยวให้ชุมชน แต่เราค่อยๆ ให้นักท่องเที่ยวไปแวะชม เป็นสิ่งที่รัฐบาลมุ่งหวัง ไม่จำเป็นต้องสร้างสนามบินใหม่ ถนนเข้าถึง เมืองใหญ่ใกล้เมืองรอง ปันส่วนไปให้เมืองรองจากเมืองใหญ่ พลังต่างๆ ลงไปชี้แนะ การทำโอทอป ต้องทำโอทอปให้มีมูลค่า ต้องสร้างแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนที่มีค้าโอทอป พานักท่องเที่ยวไปหาสินค้าดี ไปดูชุมชนในการผลิตสินค้า วิถีการผลิต เช่นผ้าไหม บางจังหวัดมีน้ำตาล ขนมหวาน แทนที่จะเป็นเมืองผ่าน การท่องเที่ยวก็ต้องสนับสนุน เรื่องของการท่องเที่ยวไม่ใช่หาดทรายเพียงอย่างเดียว

“ลองคิดดูแต่ละปีคนเข้ามา 34-35 ล้านคน รายจ่ายต่อหัวมาก กรณีของไทยเราเป็นประเทศปลูกข้าว  ข้าวที่ผลิตในระบบเกษตรอินทรีย์ต่างๆ สามารถสร้างเรื่องราว หมู่บ้านให้ดูท้องนา พานักศึกษาไปออกต่างจังหวัด ทำให้รู้ว่าการปลูกข้าวที่เป็นวิถีชีวิต และเป็นศิลปะ ฮ่องกงซื้อข้าวเรามากที่สุด เราไม่ภูมิใจที่ส่งข้าวออกมากที่สุดแต่ราคาต่ำ การท่องเที่ยวเรื่องของจินตนาการเป็นสิ่งสำคัญ เราต้องกระจายสิ่งเหล่านี้สู่ท้องถิ่น วิสาหกิจชุมชน ปัญหาคือประชาชนยากจน แต่เราต้องนำประชารัฐเข้าไปช่วยให้เขารู้จักพัฒนาท้องถิ่น กระทรวงท่องเที่ยว ททท.ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน รายได้จะเกิดกับฐานราก การแก้ไขปัญหาความยากจนไม่ใช่สินค้า แต่ดูที่ชุมชน แล้วค่อยมาดูเกษตร รัฐบาลชุดนี้ต้องการสร้างสิ่งเหล่านี้ ปีหน้าเราจะสร้างฐานราก ไปทุกส่วนร่วมกัน” ดร.สมคิดกล่าว

เรื่องงบประมาณไม่ใช่ปัญหา ขอให้คิดเรื่องโครงการก่อน งบไม่จำเป็นมากเราทำประโยชน์ได้ ในอนาคตข้างหน้าเป็นปัจจัยเกื้อกูลระหว่างประเทศโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน แต่ละประเทศมีแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อ ทำให้นักท่องเที่ยวมาแล้วกระจายให้ทั่วถึง มีการเกื้อกูลกันระหว่างภูมิภาค การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหลัก ไม่ใช่อุตสาหกรรมฝาก ปัจจัยสำคัญที่ต้องการฝากในวันนี้คือ

1.ต้องมีแหล่งท่องเที่ยวที่ดี ธรรมชาติ วัฒนธรรม อาหาร สปา ทุกอย่าง แต่ละจังหวัด บริการในสิ่งที่มีอยู่ให้ดี ต้องไม่ลืมว่าการท่องเที่ยวต้องมาเป็นแพจเกจ

2.นิเวศวิทยาของการท่องเที่ยว เช่น โครงสร้างพื้นฐาน สุขา ความปลอดภัย บริการ ถ้าไม่เป็นรูปธรรม การท่องเที่ยวเกิดไม่ได้ สิ่งแวดล้อมต้องดี ต้องดูแล ความสกปรกทำให้การท่องเที่ยวพัง

3.การรักษาภาพพจน์ ภาพลักษณ์ความทรงจำที่ดีงาม เรื่องของความปลอดภัย ไม่เจอธุรกิจที่หลอกลวง ปลอดภัย ไม่จำเป็นต้องมีตำรวจเต็มไปหมด รักษาภาพลักษณ์เหล่านี้ให้เป็นมรดก สร้างความประทับใจที่ดีงาม มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ต้องร่วมกันปกป้องปัญหาจากคนส่วนน้อย

กระทรวงท่องเที่ยว ททท.และหน่วยงานอื่นๆ ต้องร่วมกัน เราต้องการทำงานบูรณาการ เวลานักท่องเที่ยวถามไม่ใช่ยิ้มอย่างเดียว ต้องมีการพัฒนาด้านภาษา บทบาทของตำรวจการท่องเที่ยวเป็นโซ่ข้อกลาง ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกและให้บริการต่างๆ

หน่วยงานที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวต้องจับมือกัน ตรงไหนน่าสนใจ ต้องทำงานร่วมกับท้องถิ่น ททท. การให้บริการท่องเที่ยว ข้อมูล การอำนวยความสะดวก เวลาเกิดอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่ต้องทำงานร่วมกับชาวบ้านชุมชน ตำรวจท่องเที่ยวต้องมีศิลปะ จัดระเบียบสตรีทฟู้ด  การจัดระเบียบไมไช่ไปจับเขา สั่งเขาเลือก ต้องเข้าใจศิลปะ เข้าใจความสวยความแบบมั่วๆ  สตรีทฟู้ดเป็นหัวใจของการท่องเที่ยวไทย ไม่ไปทำร้ายเข้า

ตำรวจท่องเที่ยวต้องมีภาพลักษณ์อ่อนโยนเป็นมิตร ผสมผสานกับตำรวจที่มีอยู่ ขยายไปสู่ตำรวจในพื้นที่ การสื่อสารกับนักท่องเที่ยว อาสาสมัครท้องถิ่น อาสาประชารัฐ จ้างคนท้องถิ่น มาทำ คอยอำนวยความสะดวก ต้องฝึกเขา ไม่ใช่เรื่องการพูด ต้องมีความรู้ดีพอ ประเทศเรามีเทศกาลต่างๆ ของแต่ละประเทศมากที่สุด คริสมาส ตรุษจีน ปีใหม่ ตำรวจท่องเที่ยวเป็นโซ่ข้อกลาง ต่างด้าวเข้ามาตม.บอกว่าจะไปไหม แหล่งเที่ยวที่คนจีนอยู่มาก ก็ต้องมีคนที่เก่งภาษาจีน ตรงไหนประเทศไหนอยู่มากต้องมีอาสาด้านภาษาอยู่ตรงนั้น การอบรม ดังนั้นเรื่องความปลอดภัยต้องสำคัญ

Tag :