ตร.ระดมกำลังเกือบ 1 แสนนาย ดูแลช่วงปีใหม่ เน้นเมา-ขับเร็ว-หมวกกันน็อค

by ThaiQuote, 23 ธันวาคม 2560

พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมป้องกันอาชญากรรม ช่วงเทศกาลคริสต์มาส และเทศกาลปีใหม่ เปิดเผยว่า ปีนี้จะใช้กำลังตำรวจ ในการปฏิบัติหน้าที่ทั้งสิ้นกว่า 92,746 นาย ซึ่งยังไม่รวมอาสาสมัคร และภาคีเครือข่ายอีกจำนวนมาก ส่วนการสำรวจจุดเสี่ยงอุบัติเหตุทั่วประเทศ พบว่า มีมากกว่า 2,000 จุด เบื้องต้นได้มอบหมายให้ตำรวจแต่ละพื้นที่ เตรียมวางกำลังตามจุดต่างๆ แล้ว โดยสถิติย้อนหลังการเกิดอุบัติเหตุ 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 58-60 พบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเฉลี่ยวันละ 490 ครั้ง บาดเจ็บ 512 คน และเสียชีวิตวันละ 57 ราย ขณะที่ภาพรวม จะเน้นกวดขันตามจุดจัดงานต่างๆ โดยคัดกรองบุคคลเข้าออกอย่างเข้มงวด พร้อมกวดขันการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การเปิดปิดสถานบริการ ห้ามเล่นดอกไม้เพลิง พลุ โคมลอย เป็นต้น หากประชาชนพบสิ่งผิดปกติ สามารถแจ้งได้ที่เบอร์ 191 หรือที่แอพพลิเคชั่น police i lert u ขณะเดียวกัน พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ยังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมบ้านพักบริเวณซอยพหลโยธิน 8 ของนายวสุ แสงสิงแก้ว หรือ จิ๊บ ร.ด. และ นางสาวสพริมรตา เดชอุดม หรือ จ๊ะจ๋า ดารานักแสดง ที่สมัครเข้าร่วมในโครงการประชารัฐร่วมใจ ดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชน ในช่วงเทศกาลสำคัญ โดยพลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ เปิดเผยว่า ตำรวจมีการนำเทคโนโลยี เช่น แอพพลิเคชั่นไลน์มาใช้ เพื่อติดต่อสื่อสารกับเจ้าของบ้านได้โดยตรง ซึ่งโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ ปีนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 60 ถึงวันที่ 3 มกราคม 61 ด้านดาราสาวจ๊ะจ๋า กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ มีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน จึงตัดสินใจเข้าสมัครร่วมในโครงการนี้ด้วย โดยขั้นตอนการสมัครก็ไม่ได้มีความยุ่งยาก เพียงแค่ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น police l lert U แล้วใช้หมายเลขบัตรประชาชน ใส่ชื่อ-นามสกุล และทำตามคำแนะนำ ก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้แล้ว สำหรับโครงการประชารัฐร่วมใจ ดูแลความปลอดภัยบ้านประชาชน หรือฝากบ้านไว้กับตำรวจเมื่อปีที่แล้ว มีผู้ร่วมโครงการ จำนวน 7,654 หลัง มากที่สุดคือพื้นที่ตำรวจนครบาล 1,513 หลัง ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นอีก ด้านพล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รองผบช.น.) ดูแลงานจราจร กล่าวว่าช่วงเทศกาบปีใหม่ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)ได้เตรียมแผนรับมือสภาพการจราจรโดยเฉพาะเส้นทางที่ต่อเนื่องกับสถานีขนส่งทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ สถานีขนส่งเอกมัย สถานีขนส่งหมอชิต 2 และสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ รวมทั้งท่าอากาศยานดอนเมือง และสถานีรถไฟกรุงเทพฯหรือหัวลำโพง โดยคาดว่าสถานีขนส่งต่างๆ เริ่มมีประชาชนเดินทางตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.60 ตอนเย็นโดยเฉพาะบริเวณสถานีขนส่งหมอชิตซึ่งถนนกำแพงเพชรยังเป็นถนนที่ต่อเนื่องกับถนนวิภาวดีอีกด้วย โดยเบื้องต้นตนได้กำชับสน.พื้นที่ที่มีสถานีขนส่งตั้งอยู่ให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจราจรไปยืนอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและช่อยเหลือประชาชนตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค.ไปจนหมดช่วงเทศกาล นอกจากนี้บช.น.ยังมีแนวคิดว่าจะประชาสัมพันธ์ให้รถโดยสารสาธารณะ รถแท็กซี่ หรือรถยนต์ส่วนบุคคลที่เข้ามาส่งประชาชนบริเวณหมอชิตหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางออกมาทางถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อให้เส้นทางแก่รถขนส่งฯ โดยให้รถส่วนตัวเลี่ยงไปใช้ถนนอื่น พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการกวดขันวินัยจราจรได้เน้นกรณีขับรถเร็ว เมาแล้วขับ และขับรถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกกันน็อค โดยเฉพาะกรณีเมาไม่ขับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรตั้งด่านวัดปริมาณแอลกอฮอล์ทั่วพื้นที่ ส่วนเรื่องมาตรการควบคุมความเร็วตนได้เน้นให้เข้มงวดในเส้นทางหลักอาทิ ถนนวิภาวดีรังสิต บนทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ ถนนพระราม2 และบนทางด่วนซึ่งมีเครื่องตรวจวัดความเร็วรถอัตโนมัติอยู่แล้วสามารถดำเนินการได้ทันที ส่วนการควบคุมเรื่องการสวมหมวกกันน็อคขณะนี้บช.น.มีมาตรการรณรงค์ให้ประชาชนสวมหมวกกันน็อคซึ่งจะดีเดย์ในวันที่ 25 ธ.ค.60 นี้เพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนในช่วงเทศกาลโดยการเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายจะต้องเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 24 ธ.ค.60เป็นต้นไปจนจบเทศกาลปีใหม่ นอกจากนี้ยังได้กำชับให้เจ้าหนาที่ตำรวจราจรเข้มงวดกับรถแท็กซี่ที่มีการปฏิเสธผู้โดยสารและแท็กซี่ที่คิดราคาค่าโดยสารเกินอัตราราคาที่กฎหมายหรือไม่มีการกดมิเตอร์เพื่อเป็นการป้องกันประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบ ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ตนได้กำชับว่าในช่วงเทศกาลให้ลงปฏิบัติหน้าที่เต็มอัตรากำลังโดยห้ามลาหรือหยุดเป็นเด็ดขาด.

Tag :