1. ควรเลือกซื้อทัวร์กับบริษัททัวร์ที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจนำเที่ยวอย่างถูกต้อง เช่น มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวถูกต้อง ตรงประเภทและยังไม่หมดอายุ (ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยทั่วไปจะมีอายุ 2 ปี และต้องทำการต่ออายุทุกๆ 2 ปี) แต่ต้องระวังบริษัททัวร์ที่ใส่เลขที่ใบอนุญาตปลอมเพื่อให้ดูเหมือนว่าเป็นทัวร์ที่ถูกต้อง แนะนำลองตรวจสอบกับกรมการท่องเที่ยว 2. ควรเลือกซื้อทัวร์กับบริษัททัวร์ที่มีความน่าเชื่อถือและมั่นใจได้จริง เช่น บริษัททัวร์ชั้นนำของสายการบิน บริษัททัวร์ที่ไม่เปลี่ยนชื่อบริษัทบ่อย เว็บไซต์ของบริษัทเป็นเว็บที่เปิดเป็นเวลานานพอสมควร ลักษณะการจดทะเบียนธุรกิจ บริษัทที่ระบุชัดเจนได้ว่าสำนักงานที่ตั้งอยู่ไหน มีตัวตนอยู่จริง มีเบอร์โทรและอีเมล์ที่สามารถติดต่อได้ และติดต่อกับใครได้บ้าง หรืออ้างอิงจากเพื่อนหรือคนรู้จักที่เคยไปเที่ยวกับบริษัททัวร์ที่เลือกซื้อ เป็นต้น 3. ควรเลือกทัวร์ที่มีโปรแกรมชัดเจน โปรแกรมควรระบุไว้ชัดเจนว่าราคาที่ท่านจ่าย ท่านจะได้รับอะไรบ้าง พักโรงแรมอะไร ระดับไหน รับประทานอาหารหัวละเท่าไหร่ พาไปเที่ยวไหนบ้าง หรือว่าลงโปรแกรมไว้ยาวเป็นหางว่าวแต่ไม่ได้เที่ยว ลงไว้ให้รู้ว่ารถวิ่งผ่าน ค่าทัวร์ที่จ่ายไปรวมค่าอาหารทุกมื้อหรือไม่หรือว่าบางมื้อต้องจ่ายเอง ควรดูโปรแกรมที่ระบุไว้ชัดเจนเพื่อเป็นการตัดสินใจ หลีกเลี่ยงทัวร์ที่โฆษณาคลุมเครือแบบจับต้องไม่ได้ 4. ไม่เลือกทัวร์ที่ราคาแพงหรือราคาถูกจนเกินไปโดยไม่ทราบถึงมาตรฐานการบริการ เพราะอาจเป็นไปได้ว่าทัวร์นี้อาจจะเอาไปขายให้ทัวร์ท้องถิ่น ซึ่งบริการก็ธรรมดาแต่ราคาแพงไป เสียดายเงิน แต่ก็ไม่เลือกทัวร์ราคาถูกจนเกินไป เพราะอาจเป็นไปได้ว่าทัวร์นั้นขาดการจัดการที่ดี หรือเป็นทัวร์ทริปแรกของผู้จัดที่ต้องการหาคนไปเที่ยวเพื่อหาประสบการณ์ในสถานที่ใหม่ๆ ถามอะไรก็ไม่รู้ เพราะไม่เคยสำรวจมาก่อน ทำให้การจัดโปรแกรมทัวร์ไม่เหมาะสม จัดเวลาไม่เหมาะสมที่ควรเป็น ไม่ได้เห็นในสิ่งที่ควรจะเห็น ไม่ได้อยู่ในที่ๆ ควรอยู่ ยกเว้นเสียแต่ว่าท่านรู้แล้วว่าเป็นทัวร์สำรวจที่ไม่อาจคาดหวังกับโปรแกรมการเดินทางได้ 5. ไม่เลือกซื้อทัวร์ที่แอบนำภาพของคนอื่นมาทำโปรแกรมเที่ยว นั่นย่อมหมายความว่าทัวร์คณะนั้นยังไม่เคยไปสถานที่นั้นๆ จึงต้องไปขโมยรูปของท่องเที่ยวท่านอื่นๆ มาใช้ เมื่อไม่เคยไปก็ไม่มีความรู้ในพื้นที่และแหล่งท่องเที่ยวทำให้จัดโปรแกรมได้ไม่เหมาะสม ถึงแม้จะลอกโปรแกรมเที่ยวมาจากทัวร์อื่น เมื่อเกิดปัญหาขึ้นที่จุดใดจุดหนึ่งก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเพื่อให้โปรแกรมเที่ยวเดินไปได้อย่างเหมาะสม ยกเว้นเสียแต่ว่าเขาได้บอกไว้ก่อนแล้วว่าเป็นทัวร์สำรวจ ราคาแบบสำรวจ และคุณตั้งใจไป 6. ปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่นิยมจองแพคเกจทัวร์ทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะมีความเสี่ยงมากขึ้น ดังนั้นมีข้อสังเกตบางประการที่จะของพิจารณาว่าเว็บไซต์ดังกล่าวมีรายละเอียดดังต่อไปนี้หรือไม่

• โดเมนเว็บไซต์ สิ่งที่ต้องสังเกตคือ ชื่อโดเมน, เจ้าของโดเมน, วันจดโดเมน จะต้องมีอายุพอสมควร (ยิ่งเก่า ยิ่งดี) และวันหมดอายุ จะต้องมีไม่น้อยกว่า 3 เดือนหรือมากกว่านั้น
• มีหน้า About Us หรือ Contact Us ที่ระบุชัดเจน ว่าสำนักงานที่ตั้งอยู่ที่ไหน มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ มีเบอร์โทร เบอร์แฟ๊กซ์ และอี-เมล สามารถติดต่อได้ และติดต่อกับใครได้บ้าง
• ลักษณะการจดทะเบียนธุรกิจจะต้องระบุอย่างชัดเจนและสามารถตรวจสอบได้ ว่ามีการทำธุรกิจในลักษณะใด มีการจดทะเบียน เป็นบุคคลธรรมดา, ห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทฯ ควรจะมีเอกสารมาแสดงเพื่อตรวจสอบด้วย
• ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว เรื่องนี้สำคัญ ถ้าเจอเว็บไซต์ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ขอให้ระวัง... สำหรับธุรกิจท่องเที่ยว จะต้องมีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวถูกต้อง ตรงประเภท และยังไม่หมดอายุ ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยทั่วไป จะมีอายุ 2 ปี และต้องทำการต่ออายุทุกๆ 2 ปี

7.บัญชีธนาคารที่โอนเงินเข้าไปควรตรวจสอบว่าเป็นชื่อของใครในบริษัท เช่น ชื่อกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัททัวร์ที่ซื้อจริง ไม่ควรโอนให้พนักงานหรือผู้ติดต่อเพราะความไว้วางใจ เช็กให้ดีด้วยวิธีง่ายๆ เหล่านี้ ก่อนการตัดสินใจซื้อแพจเกจ ท่านก็สามารถไปเที่ยวในเทศกาลปีใหม่นี้ได้อย่างปลอดภัยและสนุกสนาน สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับชีวิต แต่ถ้าหากมีปัญหาก็สามารถร้องเรียนไปยังสายด่วน สคบ.1166 หรือติดต่อได้ที่เว็บไซต์ www.ocpb.go.th