สายเศรษฐกิจประสานมือพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล

by ThaiQuote, 11 มกราคม 2561

นายพิเชฐ  ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวในงานสัมมนา “พลิกโฉมเศรษฐกิจไทย สู่ยุคดิจิตอล” ว่า   ขณะนี้ทั้งโลกได้ถูกคุกคามทางอินเทอร์เน็ตจากกลุ่มมิจฉาชีพ จากทุกมุมทั่วโลก จึงเตรียมตั้งไซเบอร์เยนซี่ พัฒนาแฮ็กเกอร์คนดีมาป้องกันระบบ นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะไอทีเชื่อมโยงไปทุกส่วน ทั้งสถานบันการเงิน ตลาดหลักทรัพย์ พลังงาน สาธารณสุข จึงหวังนำร่องระบบป้องกันภัยไซเบอร์ 6 กลุ่มที่สำคัญ และต้องพัฒนาบุคคลากรด้านซีเคียวริตี้ไซเบอร์ เพื่อรองรับสังคมเศรษฐกิจยุคดิจิทัล เนื่องจากเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ในปี 2561 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุดดิจิทัล เพื่อเป็นสะพานดิจิทัลบริดในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ   ขณะนี้ระบบการสร้าง Connectivity คืบหน้าไปมากแล้ว รัฐบาลจึงต้องการวางระบบอินเทอร์ฟรีไวไฟความเร็วสูงครอบคลุมไปทั่วประเทศขนาด 30 เมกกะบิทเป็นอย่างต่ำ ได้หารือกับทีโอทีและภาคเอกชน ที่ให้บริการ 349 บาทต่อเดือน เพื่อกระจายความเจริญให้อำนาจจ่ายค่าบริการได้ในภูมิภาค สำหรับกฎหมายเน้นคุ้มครองส่วนบุคคล กฎหมายธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และกระทรวงการคลังกำลังศึกษากฎหมายชำระเงิน รวมทั้งยังเน้นย้ำให้ดูแลตัวเอง เพราะยังมีช่องโหว่ เนื่องจากโลกไซเบอร์ต้องเน้นป้องกันภัยเพื่อความปลอดภัยส่วนตัว  เพื่อวางโครงสร้างพื้นฐานรองรับเทคโนโลยีดิจิทัลโดยผลักดันให้หมู่บ้านที่เหลืออีกร้อยละ 20 การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตภายในปีนี้ ผ่านโครงกานเน็ตประชารัฐ เพื่อช่วยให้ร้านค้าชุมชน โอท็อปและโชห่วยสามารถค้าขายผ่านออนไลน์ได้ง่ายขึ้น  หลังจากนี้รัฐจะวางอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ เคเบิ้ลใต้น้ำให้ครอบคลุม  ตั้งเป้าฝึกอบรมแกนนำชุมชนให้ได้ 1 ล้านคนในปีนี้เพื่อให้ความรู้คนในหมู่บ้าน   นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย  กล่าวว่า ระบบการเงินเป็นข้อมูลดาต้าไม่ได้ใช้เงินผ่านธนบัตร ผ่านแบงก์ รัฐบาลได้หารือร่วมกันหลายหน่วยงาน เกี่ยวกับวิธีการป้องกันระบบแฮ็กเกอร์ และได้ทดลองเหตุการณ์ฉุกเฉินเพื่อหาแนวทางในการป้องกันหลายเหตุการณ์ และเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นกับผู้ใช้บริการมากขึ้น  สำหรับสถาบันการเงินต้องเตรียมพร้อมรองรับนวัตกรรมใหม่ หากไม่ทำคนอื่นจะทำแล้วตนเองจะลำบาก ธนาคารจึงได้มุ่งเน้นสร้างความมั่นใจ และปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากความผิดพลาดของบุคคลไม่ใช่ตัวระบบ   นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ต้องเน้นด้านนวัตกรรมทั้งดิจิทัลและระบบเดิม จากนี้ไปบริษัทจดทะเบียน เพื่อใช้ Clould Service ยอมรับว่าภาษาอังกฤษสำคัญมาก เป็นพื้นฐานสำคัญของการอ่านข้อมูลดิจิทัล และอย่างหลงเชื่อข้อมูลผ่านระบบไลน์ ต้องตรวจสอบความถูกต้อง ไม่เช่นนั้นจะตกเป็นเหยื่อจากการแสวงหาโอกาสของกลุ่มมิจฉาชีพหรือกลุ่มต่างๆ  อย่างเน้นย้ำการมีดิจิทัลเป็นการสร้างโอกาสให้เอสเอ็มอีหรือรายย่อยตัวเล็กจากยุคเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง ตลาดหลักทรัพย์ฯยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการตัวเลขเข้าถึงตลาดทุนได้มากขึ้น เพราะเทคโนโลยีเปิดให้ทุกฝ่ายเข้าถึงได้มากขึ้น   นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า รัฐบาลต้องการเน้นพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ จากเอสเอ็มอีคนตัวเล็กและรายย่อย  เพราะประเทศกำลังพัฒนาต้องพัฒนาด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล การสร้างทรัพย์สินดิจิทัล เช่น ข้อมูลในรูปแบบ Big Data จากทุกภาคส่วนเพราะข้อมูลด้านต่างๆมีความสำคัญมาก ทั้งเรื่องจีดีพีของประเทศ บทวิเคราะห์ ผลผลิตอุตสาหกรรม ดัชนีทุกด้าน เมื่อข้อมูลได้รับการพัฒนาจะถูกนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ เพื่อให้กลุ่มประชาชนรายย่อย เอสเอ็มอี เพราะความท้าทายติดมากับโอกาส จึงต้องเสริมทักษะบุคคลากรแรงงานให้มีคุณภาพ เพราะไทยมีแนวโน้มขาดแคลนแรงงาน เมื่อแรงงานต่างด้าวกลับประเทศ ต้องใช้ระบบอัตโนมัติ ระบบหุ่นยนต์ทำงานทดแทน จึงต้องพัฒนาระบบต้นทุนประกอบการ   ดังนั้นในปี 2561 จึงต้องการให้ทุกส่วนร่วมกันปรับปรุงรองรับเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลง ในปี 2561 จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล  เพื่อหวังเข้าไปพัฒนาทุกภาคส่วนทั้งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยภาครัฐพร้อมให้การสนับสนุนทั้งการฝึกอบรมและสินเชื่อ รวมทั้งดึงเอกชนรายใหญ่มาร่วมโครงการ Big brother นำเอกชนรายใหญ่  25 ราย มาช่วยกระดับให้กับรายเล็ก เพื่อใช้ประโยชน์จากดิจิทัลได้จริงและเป็นการทรานฟอร์มไปสู่ธุรกิจเทคโนโลยีขนาดใหญ่ขึ้น โดยมองว่าน่าจะใช้เวลาเป็น 10 ปีในการปรับตัวไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลและจีดีพีโตได้อย่างยั่งยืนได้ .

Tag :