นายพชรอนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า หลังจากได้เปิดจองเหรียญที่ระลึกในโอกาสการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ เหรียญที่ระลึกทองคำราคาเหรียญละ50,000 บาท  มียอดจอง 1.4 แสนเหรียญ ,  เหรียญที่ระลึกเงินราคาเหรียญละ 2,000  บาท  ยอดจอง 7 แสนเหรียญ , เหรียญที่ระลึกทองแดงรมดำพ่นทรายราคาเหรียญละ 3,000 บาท มียอดจอง 79,999 เหรียญ,   และเหรียญที่ระลึกคิวโปรนิกเกิลราคาเหรียญละ 100 บาท ยอดจอง 10 ล้านเหรียญ  จองที่หน่วยงานของกรมธนารักษ์ทั่วประเทศและธนาคาร 19  แห่ง  โดยพร้อมเปิดให้ ผู้สั่งจองมารับเหรียญได้ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 61-31 กรกฎาคม 61  เป็นระยะเวลา 6 เดือน ย้ำว่าใครจองที่ไหนให้ไปรับที่จองเดิม   โดยต้องนำใบเสร็จรับเงิน (ตัวจริง) พร้อมบัตรประชาชน (ตัวจริง)มารับเหรียญ กรณีให้บุคคลอื่นรับแทน ผู้รับมอบต้องนำใบเสร็จรับเงิน (ตัวจริง) โดยให้ผู้สั่งจองลงลายมือชื่อมอบอำนาจด้านหลังใบเสร็จรับเงิน พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบ (ตัวจริงและสำเนา)   กรณีใบเสร็จรับเงินสูญหายผู้สั่งจองเหรียญต้องนำใบแจ้งความ พร้อมบัตรประจำตัวประชาชน(ตัวจริง) หากมอบอำนาจให้บุคคลอื่นรับแทนจะต้องมีหนังสือมอบอำนาจ ใบแจ้งความ และบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบ (ตัวจริงและสำเนา)   กรณีใบยืนยันการรับจองเหรียญของธนาคารมีการจองเหรียญทองแดงรมดำพ่นทรายรวมอยู่ด้วยนั้น  ธนาคารจะจ่ายเฉพาะเหรียญทองคำ เหรียญเงิน และเหรียญคิวโปรนิกเกิล ยกเว้น เหรียญทองแดงรมดำพ่นทราย จากนั้นธนาคารจะถ่ายสำเนาใบยืนยันการรับจองเหรียญพร้อมประทับตราธนาคาร และลงลายมือชื่อของเจ้าหน้าที่ผู้จ่ายเหรียญ พร้อมชื่อ-นามสกุล (ตัวบรรจง) ให้แก่ผู้สั่งจองเหรียญ เพื่อให้ผู้สั่งจองเหรียญนำสำเนาใบยืนยันการรับจองดังกล่าว มารับเหรียญทองแดงรมดำพ่นทราย ณ หน่วยรับจองของกรมธนารักษ์ เพราะเหรียญทองแดงรับที่กรมธนารักษ์เท่านั้น   นายพชร กล่าวเพิ่มเติมว่า การจองเหรียญที่ระลึกทองแดงรมดำพ่นทรายรอบ 2 สามารถรับเหรียญได้ตั้งแต่วันที่  2 มีนาคม  61 เป็นต้นไป และหากผู้สั่งจองไม่ได้ติดต่อขอรับเหรียญที่ระลึกทั้ง 4 ประเภท เกิน  6 เดือน หลังจากวันที่ 31 กรกฎาคม 61 สามารถนำใบยืนยันการรับจองเหรียญมาติดต่อขอรับเหรียญได้ที่กรมธนารักษ์/สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ในเขตจังหวัดที่จองเหรียญฯตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม  61 เป็นต้นไป ย้ำว่าการให้เวลามารับเหรียญถึง 6 เดือน จึงไม่อยากให้มารับเหรียญในช่วงแรกหนาแน่นเกินไป เพราะยังมีเวลาอีกมาก   นายพงศ์ธร พากเพียรทรัพย์ รองอธิบดีกรมธนารักษ์  กล่าวว่า หลังจาก ครม.เห็นชอบผลิตเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เพื่อใช้หมุนเวียนในระบบทั้ง 9 ชนิดราคา ได้แก่ เหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชนิดราคา 10 บาท เหรียญ 5 บาท, 1 บาท, 50 สตางค์, 25 สตางค์, 10 สตางค์, 5 สตางค์ และ 1 สตางค์ ขณะนี้รอประกาศกระทรวงมีผลบังคับใช้ กรมธนารักษ์เตรียมพร้อมการผลิตได้ในช่วงเดือนมีนาคมนี้ แต่จะทยอยผลิตออกสู่ระบบผสมกับเหรียญชุดเดิม ที่ใช้หมุนเวียนอยู่ประมาณ 30,000 ล้านเหรียญ .