จากกรณีเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก จับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมพวกรวม 4 คน และของกลางซากสัตว์ป่าคุ้มครอง คือ ไก่ฟ้าหลังเทา ซากเนื้อเก้ง ซากเสือดำ ถูกชำแหละถลกหนัง อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่งนั้น

เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 61 ที่ผ่านมา พล.ท.ชัยยุทธ พร้อมสุข ประธานกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พร้อมด้วย พล.ร.อ.วีระพันธ์ สุขก้อนพล.อ.พิศณุ พุทธวงศ์ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก และนายสนิท อักษรแก้ว กรรมาธิการฯ ร่วมกันแถลงข่าว

พล.ท.ชัยยุทธ กล่าวว่า ขอแสดงความห่วงใยต่อกรณีที่มีบุคคลพร้อมด้วยอาวุธเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก โดยเข้าไปพักแรมบริเวณพื้นที่หวงห้ามและคุกคามชีวิตสัตว์ป่า ซึ่งเป็นการละเมิดพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และเป็นการกระทำความผิดหลายฐาน บุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีจะต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป

พล.ท.ชัยยุทธกล่าวต่อว่า ในการประชุมกรรมาธิการฯ วันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ จะเชิญ น.ส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก มาให้ข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาในการเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ด้วยพร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการทำงานด้วย

ด้านนายสนิท อักษรแก้ว รองประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า กฎหมายที่บังคับใช้ในปัจจุบันมีบทลงโทษน้อยเกินไป ซึ่งคณะกรรมาธิการได้พยายามติดตามการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเท่าที่ทราบขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะมีการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวอย่างไร โดยส่วนตัวเห็นว่า ควรจะมีการแก้ไขบทลงโทษกับผู้ที่ล่าสัตว์ป่าสงวนให้หนักและรุนแรง ซึ่งอาจจะเพิ่มเป็น 10-20ปี ส่วนเรื่องการอนุญาตให้คนเข้าไปในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่านั้นก็ต้องระมัดระวัง ไม่ใช่ว่าผู้ใหญ่ขอมาก็ให้เข้าไป วัฒนธรรมเช่นนี้ควรจะเลิกได้แล้ว

   ส่วนความเคลื่อนไหวทางด้านคดี ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ก.พ.พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงการจะออกหมายเรียก นายนพดล พฤกษะวัน อดีตข้าราชการกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ที่ประสานงานให้นายเปรมชัย กรรณสูต  กับพวกเข้าพื้นที่ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตกนั้น เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะไปติดตามตัวมาสอบปากคำ เนื่องจากมีการออกหมายเรียกแล้ว ตนได้นับหนึ่งไปให้แล้ว ที่เหลือพนักงานสอบสวนก็ดำเนินการต่อได้

          รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ขอยืนยันว่า นายวิเชียร และเจ้าหน้าที่ที่เข้าให้ปากคำในฐานะพยานในคดีนี้ ยังไม่มีการประสานงานหรือร้องขอให้คุ้มครองความปลอดภัย พร้อมกันนี้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองก็ยังไม่มีข้อมูลว่านายเปรมชัยหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านตามที่เป็นกระแสข่าว แต่หากพบหลักฐานว่าหลบหนีทางช่องทางธรรมชาติ ก็สามารถขอศาลยกเลิกคำสั่งให้ประกันตัวได้ เนื่องจากนายเปรมชัยได้ประกันตัวในชั้นศาล ตำรวจก็ไม่มีอำนาจก้าวล่วง ซึ่งเมื่อครบกำหนดฝากขัง 12 วัน นายเปรมชัยจะต้องเดินทางมารายงานตัวต่อศาล หากไม่เดินทางมาศาลก็จะยึดเงินประกันตามขั้นตอน

          ส่วนบ้านพักที่อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย นั้น ไม่ใช่บ้านนายเปรมชัย แต่มีชื่อของบริษัท ซี.พี.เค. อินเตอร์เนชันแนล จำกัด เป็นผู้ครอบครอง ซึ่งนายเปรมชัย เป็นเพียงกรรมการบริหารเท่านั้น โดยบ้านหลังดังกล่าวจะมีความผิดฐานลุกล้ำพื้นที่ป่าอนุรักษ์หรือไม่ ต้องให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. ตรวจสอบ

ทางด้านการเก็บหลักฐานเพิ่มเติม พ.อ.พิเชษฐ์ หัสดีผง รองผบ.ฉก.ลาดหญ้า ซึ่งรับผิดชอบดูแล 5 อำเภอแนวชายแดนไทย-เมียนมา จะลงพื้นที่ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก พร้อมกำชับให้ทหารที่ดูแลรับผิดชอบในแต่ละจุด ทั้ง 5 อำเภอแนวชายแดนไทย-เมียนมา เฝ้าระวังดูแลบุคคลที่เข้าออกอย่างละเอียด รวมทั้งได้ส่งทหาร 1 ชุดจำนวน 8 นาย เข้าไปปฏิบัติภารกิจร่วมกับนายวิเชียร ชินวงศ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก เพื่อร่วมตรวจสอบบุคคลต่างๆที่เข้า-ออกในพื้นที่รวมทั้งคอยดูแลความปลอดภัยให้นายวิเชียรและเจ้าหน้าที่ด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ได้ประชุมความคืบหน้าผลการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี นายเปรมชัย และพวก โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเตรียมเปิดผลการตรวจดีเอ็นเอบางส่วนที่ออกแล้ว เพื่อประกอบสำนวนให้ครบถ้วน ทั้งพยานวัตถุบางส่วน เช่น ก้นบุหรี่ อุจจาระ ลายนิ้วมือแฝงที่ติดตามกิ่งไม้ ที่ถูกตัดบริเวณลานตั้งแคมป์ โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 7 เตรียมรายงานให้หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนรับทราบในที่ประชุม เพื่อสรุปสำนวนบางข้อหาในการดำเนินคดีกับนายเปรมชัยและพวก ขณะที่ผลการตรวจกระสุนปืน และอาวุธปืน ยังไม่เปิดเผยความคืบหน้าที่มีการประชุมในวันนี้

รายงานข่าวจากกรมอุทยานฯ แจ้งว่ากองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(บก.ปทส.)ได้ทำหนังสือถึงกรมอุทยานฯ เพื่อขอให้มีการตรวจสอบดีเอ็นเองาช้างแล้ว แต่เป็นการส่งสลับหน่วยรับผิดชอบ โดยส่งหนังสือเรื่องการตรวจดีเอ็นเอไปที่กองคุ้มครองสัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา (ไซเตส) กรมอุทยานฯ ที่ดูในเรื่องการแจ้งครอบครองงาช้าง ส่วนการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเออยู่ในความรับผิดชอบของสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ซึ่งกรมอุทยานฯ กำลังอยู่ระหว่างการประสานงานภายในและตอบกลับหนังสือไปที่ บก.ปทส. เพื่อเข้าไปเก็บดีเอ็นเองาช้างที่เก็บรักษาที่ บก.ปทส.มาตรวจพิสูจน์ต่อไป