'มูลนิธิสืบ'ออกแถลงการณ์' 4 ข้อ จี้เร่งปิดคดี “เปรมชัย”

by ThaiQuote, 5 มีนาคม 2561

วันนี้ (5 มี.ค.61) ที่สำนักงานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร นายศศิน เฉลิมลาภ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร และ นายภานุเดช เกิดมะลิ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร รวมถึงเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกิจกรรมการจัดเวทีแถลงการณ์ 1 เดือนความคืบหน้า คดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่ 61 พร้อมทั้งออกแถลงการณ์ทั้งหมด 4 ข้อ โดยในแถลงการณ์ระบุว่า “ทวงถามความคืบหน้าคดีล่าสัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร” ลงวันที่ 5 มีนาคม 2561 ดังต่อไปนี้

จากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จับกุมนายเปรมชัย กรรณสูต กับพวกรวม 3 คน ในพื้นที่ที่ไม่อนุญาตให้ตั้งแคมป์ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และตรวจยึดซากสัตว์ป่าคุ้มครองพร้อมอาวุธปืนและเครื่องกระสุน และปลอกกระสุนปืนนั้น จนวันนี้ผ่านมาครบระยะ 1 เดือนแล้วแต่การสอบสวนเพื่อการดำเนินคดีต่อนายเปรมชัยกับพวกกลับดำเนินไปอย่างล่าช้าในสายตาของสาธารณชน

          

มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร จึงขอแถลงการณ์ดังต่อไปนี้

1. เมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์แห่งคดี พบข้อเท็จจริงว่า นายเปรมชัยกับพวกลักลอบนำอาวุธปืนซุกซ่อนไว้ในรถก่อนขอ อนุญาตเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตั้งแต่แรกแล้ว ก่อนที่จะลักลอบเข้าไปตั้งแคมป์ในเส้นทางและบริเวณพื้นที่ที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปซึ่งเป็นบริเวณที่สงวนไว้สำหรับการอยู่อาศัยและหากินของสัตว์ป่าตามธรรมชาติ อีกแสดงให้เห็นว่า นายเปรมชัยกับพวกมีเจตนาเข้าไปภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เพื่อล่าสัตว์ป่า ตั้งแต่แรกแล้วมิได้มีเจตนาเข้าไปเพียงเพื่อการพักผ่อนอย่างที่กล่าวอ้าง ประกอบกับเสียงปืนที่ดังมาจากบริเวณที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปจึงมีเพียงกลุ่มของนายเปรมชัยกับพวกเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นที่เข้ามา พร้อมกับอาวุธปืน เครื่องกระสุน และปลอกกระสุน รวมถึงซากสัตว์ป่า และร่องรอยกระสุน บนซากสัตว์ป่า เศษซากกระดูกสัตว์ป่าที่พบในลำห้วย รวมถึงการประกอบอาหารที่ทำมาจากเนื้อสัตว์ป่า ที่ตรวจพบในบริเวณที่ตั้งแคมป์ล้วนเป็นพยานวัตถุสำคัญที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ที่ชัดเจนยิ่งว่านายเปรมชัยกับพวกได้ร่วมกันกระทำความผิดสำเร็จฐานล่าสัตว์ป่าคุ้มครองภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแล้ว นอกเหนือจากความผิดฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง และฐานซ่อนเร้น และความผิดประกอบอื่นๆ

          .

2. จากพฤติการณ์แห่งคดีและพยานหลักฐานที่ปรากฏทำให้เห็นได้ชัดว่า คดีนี้ไม่ใช่คดีที่ซับซ้อนจึงขอเร่งรัดให้ฝ่ายที่ดูแล และรับผิดชอบการดำเนินคดี โดยเฉพาะตำรวจ เร่งรัดดำเนินการเพื่อสรุปสำนวน พร้อมความเห็นไปยัง อัยการและส่งฟ้องศาลอย่างรวดเร็วและอย่าพยายามเบี่ยงเบนประเด็นการสอบสวนโดยการมุ่งไปสู่การเสาะหาพยานวัตถุที่อาจเปลี่ยนแปลงได้

          .

3. ขอให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรัฐบาล เร่งรัดติดตามคดีนี้อย่างใกล้ชิด และขอให้กรมอุทยานฯ ตรวจสอบสำนวนคดีในชั้นอัยการอย่างรอบคอบก่อนส่งฟ้องศาลเพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อนไปจากพฤติการณ์แห่งคดีที่ปรากฏชัดแจ้งนี้

          .

4. ขอให้รัฐบาลหน่วยงานของภาครัฐออกมายืนเคียงข้างประชาชน เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และร่วมกันประณามผู้ที่มีเจตนาในการทำร้ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดตัวอย่างที่ดีให้แก่สังคมต่อไปในอนาคต

          .

ในงานแถลงเสวนาพร้อมกับเปิดแถลงการณ์ดังกล่าวมีนักวิชาการ กลุ่มเครือข่ายต่างๆ ตลอดจนสื่อมวลชนให้ความสนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก

Tag :