จุดประกายสร้างมันสำปะหลังไทย เป็นมหาอำนาจโลก

by ThaiQuote, 28 เมษายน 2561

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปาฐกถาพิเศษ “นโยบายแนวทางการบริหารจัดการมันสำปะหลัง ปี 2561/2562” ที่จังหวัดนครราชสีมา โดยกล่าวว่าเราส่งออกมันสัมปะหลังเป็นอันดับ 1 ของโลกมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ต้องการทำให้ทุกคนที่อยู่ในวงจรแข็งแรง มั่นคง อาชีพเกษตรกร ราคาพืชผลมีความสำคัญ กระทรวงพาณิชย์ต้องการทำงานร่วมกับเกษตรกรและผู้ประกอบการในห่วงโซ่ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำของมันสัมปะหลัง และต้องสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงด้วย เกษตรกรเป็นหน่วยที่สำคัญที่สุด เพราะถ้าอยู่ไม่ได้ แข็งแรงไม่พอ ก็จะเป็นปัญหา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า ที่มาในวันนี้เพื่อส่งสัญญาณว่าต้องการสร้างโคราชเป็นเมืองต้นแบบ เพื่อให้ทั้งประเทศทำตาม ในนามของผู้นำกระทรวงพาณิชย์ ต้องการทุ่มเททุกวิถีทางเพื่อให้ราคาเกษตรดี แต่ก็ต้องเกิดจากความร่วมมือของเกษตรกรและผู้ประกอบการด้วย เราต้องจับมือให้แน่นกว่าเดิม เพื่อให้ตลอดห่วงโซ่มันสำปะหลังแข็งแรง การสร้างความแข็งแรงทั้งวงจร ราคาไม่ใช่เรื่องใหญ่ ราคาไม่สำคัญเท่ากับกำไร กำไรเป็นส่วนสำคัญที่สุด เวลาผลิตมันสำปะหลัง ประเทศเพื่อนบ้านเราก็ผลิต และถ้าเราจะเก่ง เราต้องเก่งเรื่องต้นทุน เกษตรกรเราจะมั่งคั่งได้นั้นกำไรต้องมากขึ้น ต้นทุนลดลง แต่ถ้าเราหวังราคาเพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนก็เพิ่มขึ้น อันนี้เท่ากับเป็นการหลอกตัวเอง เพื่อนบ้านเราต้นทุนถูกกว่า เขาก็มาขายสู้เรา ปัจจุบันมันสำปะหลังของเรา ยิ่งปลูก ยิ่งเล็กลง จะชวนให้แข็งแรง ก็ไม่กำลัง เพราะเกษตรกรมีแต่หนี้ ขาดทุนลงเมื่อไหร่ พี่น้องเกษตรกรก็อ่อนแอลงเมื่อนั้น จึงอยากปลูกสำนึกว่า ราคาเป็นเท่าไหร่ก็ช่าง แต่ขอให้เรามีกำไร คือปรับปรุงประสิทธิภาพให้ผลผลิตมีขนาดกลับมาที่เดิม จำนวนผลผลิตต่อไร่มีมากขึ้น ทรัพย์ในดินเป็นของท่าน ท่านต้องดูแลใส่ใจ ไม่ควรปล่อยให้แต่เฉพาะเทวดาเลี้ยง ตรงนี้เป็นหัวใจ ถ้าเราต้องการแข่งกับให้ได้เราต้องใช้ความเป็นมหาอำนาจของเราสร้างตัวเราให้ได้ เวลาจะแก้ปัญหาทั้งระบบต้องมองรากปัญหาให้เจอ เราจะปลูกไปตามยถากรรมไม่ได้ ปริมาณที่ดินในการเพาะปลูก 8 ล้านไร่ อยู่โคราชกว่า 1.8 ล้านไร่ สิ่งแรกที่ต้องทำคือทำต้นทุนในถูกลง เก่งขึ้น เขาจะขายเท่าไหร่ เราแข่งขันได้ และมีกำไร กำไรเป็นความสำเร็จ หากไม่มีกำไรเป็นความพ่ายแพ้ของทุกคน นายสนธิรัตน์กล่าวต่อว่า ต่อไปกระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับกระทรวงเกษตรฯ และชาวเกษตรกรมันสำปะหลังที่โคราชร่วมมือกันยกระดับ ทำเป็นตัวอย่างให้เห็นว่าเกษตรกรทำการเกษตรในลักษณะนี้อนาคตจะสดใส ถ้าส่วนต่างต้นทุนกับราคา เรารักษาไว้ได้ และทำให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ พี่น้องเกษตรกรก็จะดีใจ เมื่อต้นทุนเข้าโรงงานแข่งขันได้ ทำให้ผลิตสินค้าที่แข่งขันได้ ส่งออกก็จะดีตาม ตลาดต่างประเทศยังมีโอกาสอีกมหาศาล ถ้าต้องการส่งแป้งมันสำปะหลังไปอินเดีย เพื่อลดความเสี่ยงที่ไปแต่จีนประเทศเดียว ก็ให้มานั่งจับมือเป็นทีมแล้วคุยกัน ถ้าขายจีนแล้วรวย บุกตลาดอินเดียได้อีก เท่ากับรวยสองเท่า จะทำให้เราขยายพื้นที่ปลูกได้อีก ขยายกำลังการผลิตได้อีก เป็นเจ้าโลกได้อีก ตลาดยังมีอนาคตสดใส จีนยังต้องการมันเส้นอีกมาก เพราะเขาขยายกำลังการผลิตเอทเทอนอล จากนี้ถึง ปี 2563 เขายังต้องการอีกมาก “เวลาค้าขายกับจีนต้องเล่นให้เป็น เขาเหมือนคนรวยที่สุดในโลก เพราะซื้อของมากที่สุดในโลก เขามีอำนาจต่อรอง บีบซื้อคนโน้น คนนี้ เราก็แย่ เรื่องของมันสำปะหลัง เราต้องรู้ว่าตลาดเราอยู่ที่ไหน กระทรวงพาณิชย์จะนำคณะมันสำปะหลังไปผูกเสี่ยวกับจีน ถ้าจีนเป็นตลาดส่งออกของเรา ต้องจับจีนเหมือนคนในครอบครัวเดียวกันให้ได้ อย่าให้เขาแค่เป็นคนซื้อ แล้วเราเป็นคนขาย ต้องเป็นแบบผัวเมียกัน กระทรวงพาณิชย์มียุทธศาสตร์ จับให้เป็นหุ้นส่วนธุรกิจให้ได้” นายสนธิรัตน์กล่าว พร้อมกับเสริมต่อว่า ปัญหาเรื่องการจัดการเกษตรคือขาดยุทธศาสตร์ด้านการจัดการ เราอยู่ในภาวะที่ดีก็รวมใจกันปลูก เจ๊งก็ร่วมกันตาย พอตายทีก็กระทบมากกว่าจะเข้มแข็งก็ใช้เวลา ให้นำโอกาสนี้ที่กำลังอยู่ในขาขึ้น วางข้างหน้า 2 ปี ผลผลิตที่แท้ๆ มีเท่าไหร่ จะทำการตลาดกันอย่างไร จะเพิ่มผลผลิตทั้งฝั่งของเกษตรกรและโรงงานอย่างไร จะสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างไร และในอีก 5-10 แผนการสร้างมูลค่าเพิ่มจะเป็นอย่างไร ไปสู่ ไบโอเทคโนโลยี ไบโอพลาสติก ต้องคิดตั้งแต่วันนี้แล้วจับมือวางแผนร่วมกัน การทำงานต้องมองไปข้างหน้า ถ้าเราไม่มองไปข้างหน้า เราก็จะไปตามยถากรรม ถ้าดวงดีมันก็ดี ถ้าดวงไม่ดีมันก็แย่ แต่อยากชวนพวกเรามาฝืนดวง ปีนี้ปริมาณการผลิต 24 ล้านตัน ปริมาณความต้องการในประเทศ 30 ล้านตัน ถ้าทุกคนโตไปด้วยกัน 40 ล้านตันก็ไม่พอ เมื่อผลผลิตเราไม่พอกับความต้องการ อยู่ที่การจัดการ มันสำปะหลังเอาเข้ามาต้องขอทะเบียน ผิดตรงไหนตามไปตรวจ ไม่ได้คิดทำร้ายการนำเข้า แต่ต้องถูกต้อง มีเหตุผลอะไรผลผลิตน้อยกว่าความต้องการ แต่คนผลิตกลับยากจน ตลาดโลกต้องการ เราผลิตมากที่สุด แต่กลับจนทั้งทีม แต่ตอนนี้เราเดินทางถูกทางแล้ว แต่เราต้องทำให้ทุกคนดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า การมาวันนี้อยากชวนให้คิด อย่ามองเฉพาะจุดใดจุดหนึ่ง เรามาจับมือเพิ่มกำลังการผลิต เพิ่มคุณภาพ อย่าเอาแต่จ้างอย่างเดียว ทำอย่างนี้เราไม่แข็งแรง ใส่ใจกันหน่อยเราจะได้รวย ลูกหลานจะได้กลับบ้าน ทำให้ลูกหลานเรากลับมาเป็นเกษตรกรยุคใหม่ การเพิ่มผลผลิตจาก 3.5 ล้านตัน ยังไม่ต้องน้ำหยด ขอให้ดูแลเรื่องปุ๋ย เรื่องน้ำ มันก็ขึ้นแล้ว นอกเหนือจากช่วยกันเพิ่มกำลังการผลิต ก็ต้องช่วยกันขยายตลาด กระทรวงพาณิชย์จะช่วย อยากตั้งคณะทำงานมันสำปะหลัง แล้วจับประเทศที่จะซื้อเรา ขอให้คณะทำงานของท่านเก็บข้อมูลทุกฝ่ายมาอย่างละเอียดแล้วมาวางแผน เวลาจะรบชนะหรือแพ้อยู่ที่ว่าอยู่บนความฝันหรือความจริง คนส่วนใหญ่รบแพ้เพราะอยู่บนความฝัน เราต้องหาให้ได้ว่าโอกาสที่ทำให้เรารวยอยู่ตรงไหน จุดแข็งของเราคืออะไร มีจุดอ่อนอะไร จุดแข็งทำให้แข็งขึ้นทำอย่างไร จุดอ่อนทำให้น้อยลงทำอย่างไร อยู่บนชีวิตจริงอย่าหลอกตัวเอง ถ้าเริ่มจากตรงนี้แล้วมีแผนว่าจะเดินต่อไปอย่างไร ชีวิตเราถึงเปลี่ยนและแข็งแรง ราคาจะขึ้นจะลงเป็นไปตามกลไกตลาดโลก มองต้องมองทั้งระบบ ราคาไม่ใช่สิ่งที่เรากำหนด มันเป็นความสามารถด้านการแข่งขัน มันเป็นความสามารถในการต่อสู้ เพราะโลกใบนี้สู้กันหมดแล้ว ทำแล้วบรรทัดสุดท้ายเกษตรกรรวยไหม กำไรไหม ผู้ประกอบการสู้ได้ไหม คนทำดีคุณภาพดีกว่าต้องราคาสูงกว่า คนที่ซื้อไป ทำของดีขึ้น ได้ราคาขึ้น มันยุติธรรม ต้องดูกันที่คุณภาพ มาตรฐาน ราคา ต้องดูกันทั้งหมด
Tag :