“ไอโคร่า”(ICORA) คือชื่อซุ้มทำมากินกับเงินสกุลดิจิตอล ที่กรณ์  จาติกวณิช ซุ่มปลุกปั้นขึ้นมาร่วมกับแนวร่วมในเมืองไทยและในต่างประเทศ โดยเขาสวมบทบาท”ผู้ร่วมก่อตั้ง” ชื่อของกรณ์ ไม่เพียงเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ไอโคร่าเท่านั้น แต่เขายังเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดตั้งสมาคมฟินเทค(ประเทศไทย) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลักดันนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางการเงินบนโลกออนไลน์ แถมยังรั้งตำแหน่งประธานสมาคมเอาไว้ด้วย           สำหรับแนวร่วมในไอโคร่าของกรณ์  ที่มีความสำคัญระดับคีย์เพลเยอร์นอกเหนือจากชาวต่างชาติแล้ว มีชื่อบุคคลที่น่าสนใจยิ่ง 2 คนเป็นหนึ่งหญิงและหนึ่งชาย หนึ่งหญิงที่ว่าคือ ดร.การดี  เลียวไพรัตน์ ทายาทอดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และเคยทำกิจกรรมการเมืองร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ อีกทั้งยังเคยมีบทบาทสำคัญในการบริหาร”ซี-อาเซียน”ในชายคาธุรกิจกลุ่มไทยเบฟของเจ้าสัวเจริญ  สิริวัฒนภักดี หรือ”ศรีสมบูรณานนท์”ในอดีต บทบาทของดร.การดี ในค่ายไอโคร่า เธอเป็นทั้งผู้ร่วมก่อตั้ง พร้อมๆไปกับการทำหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอของไอโคร่า ในส่วนหนึ่งชายที่เหลือได้แก่ ดร.สันติธาร  เสถียรไทย ทายาทหัวแก้วหัวแหวนของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ-อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง-อดีตรองนายกรัฐมนตรี ดร.สุรเกียรติ  เสถียรไทย กับ ท่านผู้หญิงสุธาวัลย์ ซึ่งมีพื้นภูมิการศึกษาและหน้าที่การงานประจำจัดอยู่ในขั้นเลอเลิศ “คุณต้นสน” หรือ ดร.สันติธาร สำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์จากทั้งลอนดอนสคูลออฟอิโคโนมิค ในอังกฤษ และมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ในสหรัฐอเมริกา และทำงานประจำกับธนาคารเครดิตสวิสอยู่ในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นสวรรค์ของธุรกิจสตาร์ทอัพและฟินเทค ในค่ายไอโคร่า ที่มีกรณ์  จาติกวณิช เป็นคีย์แมนสำคัญนี้ ดร.สันติธาร ให้เกียรติร่วมขบวนการในฐานะ”ที่ปรึกษา” ความโดดเด่นของชาติวุฒิ...คุณวุฒิในคณะบุคคลผู้มีบทบาทอย่างสำคัญในไอโคร่า ทำให้บรรดากิจการทั้งหลายที่ต้องการระดมทุนผ่านตลาดเงินสกุลดิจิตอล ต่างดาหน้าไปใช้บริการกันชนิดหัวกะไดไม่แห้ง แม้พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจทรัพย์สินดิจิตอล รวมทั้งร่างแก้ไขประมวลรัษฎากรเพื่อการจัดเก็บภาษีรายได้และเงินปันผลที่เกิดจากการลงทุนเงินสกุลเงินดิจิตอล เพิ่งจะถูกแจ้งเกิดจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และกว่าจะมีสภาพบังคับใช้ได้เต็มรูปแบบยังต้องร้องเพลงรอกันอีกหลายเดือน ถึงตอนนี้...ตอนที่การกำกับดูแลการทำธุรกรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิตอล หรือสกุลเงินดิจิตอล ยังอยู่ในห้วง”สุญญากาศ” แต่ค่ายไอโคร่า มีลูกค้าตกลงปลงใจตกล่องปล่องชิ้นใช้บริการแล้วอย่างน้อย 2 ราย คิดเป็นวงเงินเฉียดๆ 1,000 ล้านบาท ได้แก่”เจ-ฟิน” ของค่ายเจมาร์ท และ”ตุ๊กตุ๊กพาสคอยน์” ของบริษัทตุ๊กตุ๊กพาส จำกัด ที่มีหนุ่มหน้าหยกชื่อ”เอกศักดิ์  แดงเดช” ซึ่งมีความคุ้นเคยดีกับกรณ์ จาติกวณิช เป็นโต้โผใหญ่           งานและเงินจากการให้บริการธุรกรรมฟินเทคที่ไหลบ่าเข้าไปกระจุกตัวในไอโคร่า น่าจะทำให้กรณ์ จาติกวณิช มีทุนทำงานการเมืองได้อย่างสบายๆเมื่อถึงเวลาที่ตลาดการเมืองเปิด ...................................................................... ผู้เขียน : พฤกษา ประชาชื่น