พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการเชิญพรรคการเมือง และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)มาหารือการจัดการเลือกตั้งว่า พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มอบหมายให้ตนเป็นประธานในการประชุมครั้งแรก ซึ่งจะมีขึ้นประมาณสิ้น เดือน มิ.ย.นี้ เบื้องต้นจะดูว่าต้องปลดล็อกอะไรก่อน แต่ยังไม่ปลดล็อกทั้งหมด จะเน้นการเปิดให้หาสมาชิกพรรคการเมืองได้ ส่วนการหาเสียงเลือกตั้งยังไม่อนุญาต เพราะต้องรอกฎหมายลูกเรียบร้อยก่อน ขณะเดียวกัน ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองใดมาทาบทามให้ตนเองเข้าร่วมทำงานการเมือง และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีจะสนใจหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร ยังย้ำว่าไม่มี และ เรื่องนี้เคยถามหลายครั้งแล้ว นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีการคืนตำแหน่งให้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 4 คน ในพื้นที่ ภาคเหนือ และ อีสาน 4 ว่า เป็นการหวังผลทางการเมือง หรือ มีนัยทางการเมืองอย่างไรหรือไม่ เพราะสังคมยังไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าที่คืนตำแหน่งให้เพราะเหตุอะไร หรือ จะเป็นจริงตาม กระแสข่าว ยุทธวิธีล่าเมืองขึ้น หาเครือข่ายสนับสนุน พรรคพลังประชารัฐของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) "จู่ๆ บทจะคืนก็คืนตำแหน่งให้ ก็ยังไม่มีการแจ้งให้สังคมรับรู้อย่างเปิดเผย โปร่งใส ตรงไปตรงมา หรือ จะเป็นไปตามกระแสข่าวที่มีการปล่อยกันออกมาอย่างเป็นระบบหรือไม่ว่าถ้าผู้บริหารท้องถิ่นรายใด ในพื้นที่ใด ยอมสนับสนุนพรรคในเครือข่ายของ คสช.ก็จะได้คืนตำแหน่งกลับคืนมาหมดทุกแห่ง หรือถ้ามีคดีค้างคาในป.ป.ช.หรือ ป.ป.ท.ก็จะหลุดหมดทุกคดีหรือไม่ ถ้าเป็นไปตามกระแสข่าวนี้ จะเป็นไปตามยุทธวิธีล่าเมืองขึ้น เพื่อหาฐานเครือข่ายสนับสนุนพรรคของ คสช.ในอนาคตหรือไม่ ประชาชนรอฟังคำตอบ" นายอนุสรณ์กล่าว. นายวีระศักดิ์ เครือเทพ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า มีการตั้งข้อสังเกต หลังคืนตำแหน่งให้ 4 นายก อบจ. ผู้เสียหายจะฟ้องร้องได้หรือไม่ หากถูกแขวนโดยไม่พบว่ามีความผิด แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครฟ้อง แต่รัฐบาลควรจะต้องชดเชยสิ่งที่นักการเมืองเหล่านี้สูญเสียประโยชน์จากการปฏิบัติหน้าที่ เสื่อมเสียชื่อเสียงจากข้อกล่าวหาทุจริต