ยัน 3 เดือน ป.ตรีมีงานทำ แสนคน

by ThaiQuote, 19 มิถุนายน 2561

นอกจากนี้จะจับมือสถานศึกษาฝึกฝีมือเพิ่มทักษะ สร้างจิตสำนึก ระยะยาวเตรียมเปลี่ยนค่านิยมใหม่ ปรับหลักสูตรให้ตรงกับตลาด ผลักดันกฎหมายส่งเสริมการมีงานทำ  เชื่อมโยงฐานข้อมูลรัฐ - เอกชน   พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมแนวทางแก้ไขการว่างงานของผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีว่า จากข้อมูลภาวการณ์มีงานทำของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในเดือนพฤษภาคม 2561 พบว่ามีจำนวนคนว่างงานที่จบปริญญาตรีมากที่สุด จำนวน 170,900 คน กระทรวงแรงงานเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะแก้ไขปัญหาการว่างงานของผู้จบปริญญาตรี ซึ่งจะต้องร่วมมือกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีสาเหตุหลัก อาทิ การเปลี่ยนงานบ่อย รองานเนื่องจากลาออกจากงานเดิม การเลือกเรียนและจบในสาขาที่ไม่ตรงกับตลาดแรงงาน เลือกเรียนตามกระแส ค่านิยม หรือเรียนตามเพื่อน เลือกงาน รวมทั้งพฤติกรรมเด็กรุ่นใหม่ไม่ชอบทำงานที่อยู่ในกรอบ เป็นต้น   ทั้งนี้ มีแนวทางการแก้ไขปัญหาว่างงานของผู้จบปริญญาตรีซึ่งกำหนดไว้ 2 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วนภายใน 3 เดือน โดยจัดตั้งศูนย์ OSS ทั้งในภูมิภาคและส่วนกลางขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา ระยอง ชลบุรี สุราษฎร์ธานี สงขลา และกรุงเทพมหานคร เพื่อบูรณาการทำงานกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยมีผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดเป็นผู้อำนวยศูนย์ฯ มีกรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงานเป็นเลขานุการ โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้   นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังแนะแนวอาชีพและส่งเสริมอาชีพอิสระให้บัณฑิตมีงานทำ มีรายได้ จำนวน 2,000 อัตรา จับคู่ตำแหน่งงาน (Matching) ระหว่างผู้ที่กำลังหางานทำกับนายจ้างสถานประกอบการ ผ่านศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย เว็บไซต์ http//:smartjob.doe.go.th และ Job box ของกรมการจัดหางาน 20,000 อัตรา ตำแหน่งงานในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ (EEC) 4,500 อัตรา จัดนัดพบแรงงานในสถานศึกษา (Job Fair) 20,000 อัตรา ตำแหน่งงานในเครือข่าย อาทิ JobDB,BKK job,Jobtopgun,Adecco รวม 28,000 อัตรา ความร่วมมือกับ Line Jobs เพิ่มช่องบริการรับสมัครงานผ่านไลน์‎ 20,000 อัตรา ตำแหน่งงานในต่างประเทศอีก 500 อัตรา   และกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจะบูรณาการกับสถานศึกษาเพื่อเพิ่มทักษะ(Up skill/Re-skill) แก่บัณฑิตที่แจ้งความประสงค์ฝึกอาชีพเพื่อให้ตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ ในหลักสูตรระยะสั้นฝึกอบรมอย่างน้อย 10 วัน อาทิ หลักสูตรภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีดิจิทัล อินโฟกราฟฟิก เทคนิคการนำเสนอ เป็นต้น เป้าหมาย 5,000 คน   อย่างไรก็ตามในระยะยาวภายใน 1-2 ปี กระทรวงแรงงานจะบูรณาการทำงานร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการในการแนะแนวอาชีพให้แก่นักเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษา รวมทั้งปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของสถานประกอบการ การเชื่อมโยงฐานข้อมูลกำลังคนระหว่างภาครัฐด้วยกันและภาคเอกชน การสร้างจิตสำนึกนักเรียน นักศึกษา และครอบครัวให้มีทัศนคติในการเลือกศึกษาต่อหรือเลือกประกอบอาชีพตามความรู้ ความสามารถ เพื่อให้สามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้เร็ว สร้างนิสัยการเรียนรู้ตลอดชีวิตและการทำงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ผลักดันกฎหมายส่งเสริมการมีงานทำ ปรับปรุงหลักสูตรให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานต่อไป