อีลอน มัสก์ CEO และหัวหน้าดีไซเนอร์ ของ SpaceX บริษัทผลิตจรวด และ CEOและสถาปนิก  รถไฟฟ้า Tesla ได้เสนอตัวเข้ามาเพื่อหาหนทางช่วยเหลือเยาวชน 13 ชีวิต ทีมนักเตะหมูป่า อคาเดมี ด้วยคิดว่า เทคโนโลยีที่เข้ามีอยู่น่าจะช่วยเด็กที่ติดอยู่ในถ้ำได้ เขาได้ส่งทีมวิศวกรมายังพื้นที่เชียงรายทันทีๆมีการค้นพบเด็ก 13 คน เพื่อหาหนทางช่วยเหลือ หลังจากได้ข้อมูล ทีมวิศวกรนำวิเคราะห์และส่งให้ อีลอน มัสก์ ได้ข้อสรุปที่จะผลิต‘Rescue Pod’ขึ้นมา มีคุณสมบัติที่จะใช้งานในถ้ำได้เป็นอย่างดี ‘Rescue Pod’ ผลิตจากท่อส่งออกซิเจนเหลวของจรวด Falcon มีขนาดเล็กน้ำหนักเบา สามารถยกได้ด้วยคนเดียวหรือสองคน สามารถลอดตัวถ้ำได้ รวมถึงลอดช่องแคบๆในถ้ำได้ Rescue Pod  เป็นการออกแบบอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายกระสวยที่สามารถจุ่มลงไปในน้ำได้ โดยมีถังออกซิเจนเพียงพอที่จะให้คนคนหนึ่งหายใจได้ มีขนาด 7 ฟุต หรือประมาณ 2.1 เมตร กว้างเพียงพอสำหรับให้คนเข้าไปนอนได้ และเมื่อกางออก ก็จะสามารถส่งเด็กๆ เข้าไปอยู่ข้างใน จากนั้นจึงใช้การลากจูงกระสวยกู้ภัยออกจากถ้ำ โดย ใช้หูหิ้ว 4 จุดบน และ 4 จุดล่าง ไว้สำหรับผูกเชือกแล้วลาก หรือจะหิ้วก็ได้ สามารถต่อกับถังอากาศได้ 4 ถัง โดยไม่มีส่วนยื่นออกมาไม่ให้ถังอากาศชน มีฝาปิดแคปซูลฉุกเฉินในกรณีที่ตัวแคปซูลเกิดรั่ว รวมทั้งมีคุณสมบัติกันกระแทกจากการขนย้ายภายในถ้ำได้อย่างดี ซึ่งพื้นผิวของเจ้ากระสวยนี้ มีความแข็งแรงพอที่จะสามารถรองรับสภาพพื้นผิวขรุขระในถ้ำได้ ความเอาจริงเอาจังของ อีลอน มัสก์ เห็นได้ชัดจากการให้ ทีมงานของ Wing Inflatables Arcata. ต้องช่วยกันทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำเพื่อแข่งกับเวลา  โดยใช้พนักงานกว่า 30 คนในการเร่งทำ ตัดเย็บ และนำลงทดสอบกับสระว่ายน้ำจริงๆว่า สามารถใช้งานได้ดี Rescue Pod จำนวน 5 ชิ้น ได้ถูกบรรจุใส่ไว้ในเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของ Elon Musk ในเวลา 17.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น และบินมายังประเทศไทย ใช้เวลา 17 ชั่วโมง ส่วนอีก 8 ชิ้นจะตามมาภายหลัง ทีมงานของเขา ระบุว่า (จากการที่มีการนำเด็กออกมาแล้วบางส่วน)  Rescue Pod อาจไม่ได้ใช้ประโยชน์ในตอนนี้ แต่อาจจะมีประโยชน์ในอนาคต ความมุ่งมั่นพยายามของ อีลอน มัสก์ และทีมงาน จนสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ออกมาช่วยเด็กได้ นับเป็นแบบอย่าง ที่ไม่แปลกใจว่า ทำไม จึงประสบความสำเร็จ เป็น CEO ระดับต้นๆของโลก #ThaiQuote