'ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์' เผย พระเอกถ้ำหลวงคือ “อาสาสมัคร”

by ThaiQuote, 16 กรกฎาคม 2561

วันนี้ (16 ก.ค. 61) เพจ PR.Chiangrai ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย ได้ไลฟ์สดคืนสุดท้ายที่เชียงราย เปิดใจผู้ชายชื่อณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการเหตุการณ์ศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอง โดยได้กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและเปิดเผยถึงพระเอกตัวจริงในภารกิจครั้งนี้ ในสายตาตัวเอง

         

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวว่า "วันนี้ถือว่าภารกิจเบาลง สิ่งที่ต้องขอบคุณพ่อแม่พี่น้องที่ให้กำลังใจ ขอขอบคุณจริง เพราะคนเป็นหมื่น 10 กว่าวันที่เวียนเข้าไปช่วยงาน ทั้งทำอาหาร ซักผ้า ช่วยขนอุปกรณ์ โดยเฉพาะคนที่สำคัญที่สุดในมุมของผม คือพวกอาสาสมัครกับน้องๆทหาร ที่ช่วยขนท่อ ขนถังไปช่วยน้องๆในถ้ำ พวกนี้แทบจะไม่ได้โผล่หน้าในทีวีเลย วันๆ เปียกทั้งตัว มีแต่ความชื้นความหนาว นี่คือพระเอกตัวจริง อีกกลุ่มหนึ่ง 30 กว่าทีม ทีมหนึ่ง 10 กว่าคน ที่เดินอยู่บนดอยที่หาโพรงต่างๆ ขนอาหารขึ้นไปทีหนึ่ง 3 วันไม่ได้กลับ ให้ไปลุยทีละ 3 วัน นอนกับดินกินกับทราย คนกลุ่มนี้ที่อยู่เบื้องหลังเป็นพระเอก ทั้งหน่วยงานราชการ เอกชน และชาวต่างชาติเป็นหมื่นๆ คน”

          

“ผมซูฮกเลยทีมดำน้ำอังกฤษ นี่สุดยอด ถ้าถามผมและอยากให้เล่าเรื่องจริงๆ เรื่องตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. ผมได้รับโทรศัพท์เกือบเที่ยงคืน แจ้งว่ามีน้อง 12 คนติดอยู่ในถ้ำหลวง ผมรับโทรศัพท์ก็ยังเบลอๆ ติดอยู่ในถ้ำเป็นอย่างไร คิดก็ไม่เห็นยาก คิดว่าส่งทีมกู้ภัยก็น่าจะช่วยได้ ก็วิ่งจากจวนที่อำเภอเมืองมาแม่สายเข้าไปในถ้ำก็เห็นว่าปัญหาเยอะกว่าที่คิดมาก เรามีอุปกรณ์ใดๆ ก็ตามไม่สามารถใช้ได้เลย เครื่องปั่นไฟจุดปุ๊บควันๆไอเสียก็เข้าไปในถ้ำ ก็หายใจไม่ออก ส่งทีมกู้ภัยเข้าไป 3 ชั่วโมงออกมาก็บอกยากมาก น้ำเต็มถ้ำ ก็ถอนกำลังออกมา พอวันอาทิตย์ก็มานั่งวางแผนกัน แผนก็ไม่มีอะไรมาก นำน้องออกมาทางปากถ้ำ แต่อุปสรรคคือเรื่องเวลา กับอุปสรรคคือเรื่องน้ำบริเวณสามแยก เพราะเราเชื่อว่าออกจากสามแยกไปตลอดแนวน้ำท่วมเต็มหมดแล้ว”

          

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวต่อว่า “ทางที่สองก็คือถ้าเข้าทางน้ำไม่ได้ก็ต้องทางโพรงหาให้หมด ทางที่สามคือน้ำในถ้ำเยอะเราก็ต้องเอาน้ำข้างล่างออก เผื่อน้ำใต้ดินจะได้ลงไปและเผื่อเราโชคดีเจอตาน้ำสามารถทะลุไปในถ้ำได้ ช่องทางที่สี่คือเจาะภูเขา ทางทฤษฎีเป็นไปได้แต่ทางปฏิบัติเป็นไปไม่ได้ภูเขาลึก 600 เมตร เราก็เริ่มการสูบน้ำออก ปฏิบัติงานไปเรื่อยตามเซตเรา วันแรกๆ ก็เหนื่อยหน่อย วันต่อมาก็ดีขึ้น มีผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศชมหน่วยซีลเรามาก หน่วยซีลเก่งมาก เพียงแต่อาจขาดความเชี่ยวชาญในการดำน้ำในถ้ำ แต่ผู้เชี่ยวชาญอังกฤษเก่งมากมาถึงลงน้ำและวาดภาพได้เลย ซึ่งคงไม่ต้ออธิบายมากพี่น้องทุกคนดูทีวีกันแล้ว สุดท้ายก็ช่วยน้องออกมาได้ทั้ง 13 คน บวกกับหมอภาคย์และซีลอีก 3 คน”

“ต่อไปเราคงนำไปถอดบนเรียน นำไปสอนน้องๆในการลงไปในถ้ำหน้าน้ำอันตราย ต่อไปอุทยานต้องไปวางแผน ถ้ำหลวงก็คงยกระดับจากวนอุทยานไปเป็นอุทยาน และเชื่อว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวของเชียงราย และแม่สาย เราพลิกวิกฤตเป็นโอกาส บทเรียนที่เราได้รับอันนี้คือเราห้ามประเมินสถานการณ์ผิดเด็ดขาด ต้องมีแผน ต้องรู้ทีมผู้เชี่ยวชาญมีใครบ้าง มีอุปกรณ์ต่างๆ ที่ไหน ต่อไปสามารถดึงข้อมูลเหล่านี้ไปติดต่อและชวนมาทำงานได้เลย” อดีตผู้ว่าเชียงรายกล่าว พร้อมกับต่อว่า

“อีกอย่างหนึ่งที่อยากฝาก คือพอความสำเร็จเกิดขึ้นเราลืมบางเรื่องไปเลย คือเด็กๆเรียกพี่จ่าแซมที่เสียชีวิตไปจากการกู้ภัยครั้งนี้ พวกเราในทีมปฏิบัติการรู้สึกเสียใจและเสียดายมาก ที่เพื่อนร่วมงานเราคนหนึ่งจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เมื่อวานก็ไปร่วมงานที่ร้อยเอ็ด สำหรับผมและหน่วยซีลต่างๆ พี่จ่าแซมของน้องๆจะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป ผมเชื่อว่าในชีวิตผมจะจำชื่อพี่จ่าแซมไว้ตลอด พี่จ่าแซมเป็นคนหนึ่งที่มีบุญคุณกับผมมากในภารกิจนี้”

“ผมจะกราบเรียนว่าเวลาเราดูเราติดตามข่าวเราจะชอบคนนั้นคนนี้เป็นพระเอก จริงคนเป็นมื่นต่างช่วยกันต่อจิ๊กซอร์จนออกมาสวยงาม แต่ผมเองชื่นชมคนที่ขนของ ต่อสายปั้มน้ำในถ้ำที่ลำบากมากที่ทำให้เราสูบน้ำจนชนะ และทำให้ซีลทำงานได้มีช่องอากาศ เป็นอะไรที่เบื้องหลังจริงๆ อีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในปฏิบัติการเลย คือชาวนาชาวสวนที่เราไปสูบน้ำแล้วจะไปท่วมนาหรือพื้นที่ของเขา ส่วนตรงนี้เราสำรวจแล้วมีผลกระทบพันกว่าไร่ เดี๋ยวเกษตรฯคงเข้าไปดูแล ราชการจะเข้าไปดูแลไปชดเชยให้พ่อแม่พี่น้องที่เสียสละพื้นที่ให้เราได้ระบายน้ำลงไป และกราบเรียนว่าเราปฏิบัติงานควบคุมพื้นที่ให้เสียหายน้อยที่สุด  อีกกลุ่มหนึ่งเราจะเห็นเดินเกือบทุกวัน คือกลุ่มจิตอาสาที่จะมาช่วยหลักๆ อาหาร การเบิกของ เบิกยา มาเก็บขยะ ถ้าไม่มีจิตอาสาเหล่านี้พื้นที่คงรกไปด้วยถุงพลาสติก กลุ่มโฟม และพวกเราคงไม่มีอาหารทาน ต้องขอบคุณจิตอาสาด้วย”

“ในฐานะที่ผมทำงานคิดว่ามันเครียดมากทุกคน สิ่งที่ทำให้เราอยู่ได้ทุกวันนี้คือความเชื่อมั่น เราเชื่อว่าน้องปลอดภัย เชื่อมั่นว่าเราจะไปพบเขาได้ ตรงนี้เป็นจุดสำคัญอันหนึ่งที่ผมอยากกราบเรียนกับพวกเราว่า คนเราถ้าจะทำอะไรก็ตามขอให้มีความเชื่อมั่น มีความมั่นใจ เชื่อว่าสิ่งที่เราทำถูกต้อง และต้องมีความหวังทุกวัน อีกเรื่องที่อยากจะฝาก พวกผมเมื่อทำภารกิจสำเร็จ ก็เหลือแต่ความทรงจำ ความภูมิใจ”

สุดท้ายนายณรงค์ศักดิ์ได้กล่าวว่า “แต่กลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่ง คือน้องๆ เขาเองทั้ง 13 คน ที่เคยให้สัมภาษณ์ไปเขาไม่ใช่พระเอก และเขาก็ไม่ใช่ผู้ร้าย เป็นเพียงเด็กน้อยกลุ่มหนึ่งที่มีความกระตือรือร้น มีความอยากรู้อยากเห็น อยากออกกำลังกาย ส่วนตรงนี้วันนี้เขาคงได้รับบทเรียนพอสมควร แต่มันขึ้นกับเราที่เป็นผู้ใหญ่ที่จะดูแลน้อง ถ้าเราดูแลน้องเขาผิดไป ผมเชื่อว่าน้องเขาคงกดดันสูงมาก และจะดำรงชีวิตอยู่เป็นปกติสุขยากลำบาก เราต้องดูแลน้องเขาแบบคนปกติ คนธรรมดา ไม่ใช่ดูแลน้องเขาอย่างผู้บกพร่อง อันนี้ฝากพวกเราด้วย เพราะผมเชื่อเหลือเกินว่าเดี๋ยวน้องเขากลับบ้านแล้ว ก็จะมีกลุ่มสื่อมวลชน กลุ่มออนไลน์ กลุ่มสารพัดกลุ่มจะต้องมาถามน้องเป็นอย่างไร เป็นอะไร หรือแม้กระทั่งว่าให้น้องเขาเขียนแลกกับรายได้ ผมฝากคนแม่สายช่วยดูแล เราช่วยน้องเขามาแล้ว จิตใจน้องเขาก็ต้องปลอดภัย เป็นคนที่สำคัญของประเทศได้ต่อไป"

ถ้ำหลวง     หมูป่า ณรงค์ศักดิ์โอสถธนากร

Tag :