สนธิรัตน์ดัน OTOP ลง Shopping Channel อันดับ 1 ญี่ปุ่น

by ThaiQuote, 19 กรกฎาคม 2561

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการเดินทางร่วมประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย-ญี่ปุ่น (High Level Joint Commission-HLJC) ครั้งที่ 4 ที่กรุงโตเกียว ระหว่างวันที่ 17-21 ก.ค.61  ร่วมกับคณะของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  รมว.พาณิชย์  ได้ถือโอกาสพบปะหารือกับผู้บริหารธุรกิจ Spice Road  ถึงธุรกิจร้านอาหารไทย ที่กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายส่งเสริมให้มีร้านอาหารไทยจำนวนมากขึ้นในต่างประเทศ และมีมาตรฐานแรสชาติไทยแท้ โดยมี Thai Select  เป็นสัญลักษณ์ให้ชาวต่างชาติได้สังเกต ซึ่งปัจจุบันมีร้านอาหารไทยในญี่ปุ่นจำนวน 24 ร้าน ได้รับตราสัญลักษณ์ดังกล่าวจากกระทรวงพาณิชย์แล้วจำนวน 6 ร้าน นายสนธิรัตน์  เปิดเผยว่า Spice Road  ได้เสนอว่าอาหารไทยในญี่ปุ่นควรเป็นอาหารแบบที่ปรุงภายในครอบครัว รวมทั้งอาหารที่จำหน่ายแบบแผงลอย อาหารกล่อง และอาหารส่งตามบ้าน ซึ่ง Spice Road มีนโยบายใช้พ่อครัวและผู้จัดการร้านคนไทย เพื่อรักษามาตรฐานของอาหารไทย นอกจากนี้ ได้มีการหารือกันถึงแนวทางการขยายจำนวนร้านอาหารไทยในญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบัน Spice Road มีร้านอยู่ที่โตเกียวเท่านั้น แต่มีแผนจะขยายสาขาไปจังหวัดอื่นๆ ส่วนปัญหาและอุปสรรคของร้านอาหารไทยในญี่ปุ่นขณะนี้ พบว่า มีปัญหาการนำเข้าวัตถุดิบไทยที่มีภาษีสูง โดยเฉพาะข้าวที่ต้องใช้มากถึงเดือนละ 10 ตัน  และปัญหาคุณภาพของบรรจุภัณฑ์เครื่องแกง ซึ่งตนได้รับเอาปัญหาเพื่อมาพัฒนาบรรจุภัณฑ์ต่อไป พร้อมแจ้งว่าปัจจุบันกระทรวงพาณิชย์มีนโยบายที่จะเปิดหลักสูตรเพื่อพัฒนาพ่อครัว-แม่ครัว เพื่อส่งเสริมการเปิดร้านอาหารไทยในต่างประเทศให้มากขึ้น รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือกรณีผู้จัดการร้านอาหารคนไทยที่ยังไม่สามารถขอวีซ่าทำงานในญี่ปุ่นได้ ขณะเดียวกันทั้งสองฝ่ายเห็นด้วยเรื่องการขยายสาขาร้านอาหารไทยของ Spice Road เป็น 50 ร้าน รวมทั้งสามารถขยายสู่ธุรกิจจำหน่ายวัตถุดิบอาหารไทยและเครื่องปรุง โดยการนำเข้าสินค้าจากไทย นอกจากนี้นายสนธิรัตน์ยังเปิดเผยด้วยว่า  ตนได้มีโอกาสพบกับ Jupiter ซึ่งเป็นธุรกิจ Shopping Channel อันดับ 1 ในญี่ปุ่น  ซึ่งออกอากาศสดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจำหน่ายสินค้าประจำแต่ละท้องถิ่นของญี่ปุ่น  โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง  และสินค้าประมาณ 70% เป็นประเภทแฟชั่น/เครื่องประดับ/อัญมณี และสุขภาพ/ความงาม  ซึ่งที่ผ่านมา Jupiter มีการนำสินค้าไทยมาจำหน่าย อาทิ หมอนจากผ้าไหม น้ำหอมอโรม่า กระเป๋าหนังปลากระเบน เครื่องประดับ และผลไม้ไทย เช่น มะม่วงสด ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้บริโภคญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก  ซึ่ง Shopping Channel  ถือเป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าแบบใหม่ที่น่าสนใจสำหรับสินค้าไทย ตนจึงเสนอให้ Jupiter เพิ่มการลงทุนในไทย โดยมีความเห็นพ้องถึงโอกาสในการขยายธุรกิจโดยใช้ประโยชน์จากศักยภาพของไทยในการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน โดย Jupiter ต้องการนำสินค้า OTOP ของไทยมาจำหน่าย  ซึ่งตนมอบหมายให้นายวิเชียร ชวลิต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นอดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ดูแลประสานงานกับตัวแทนของ Jupiter ในไทย  เพื่อคัดเลือกสินค้า OTOP คุณภาพสูงเข้าสู่การจำหน่ายผ่าน Shopping Channel รวมทั้งสินค้าในกลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับ  ซึ่งเชื่อมั่นว่าสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก “Jupiter ถือเป็นอีกมิติสำคัญที่จะสามารถใช้ประโยชน์จาก FTA ทั้งในกรอบ JTEPA และอาเซียน-จีน ลดต้นทุนการส่งออกสินค้ามาประเทศไทย รวมทั้งการนำเข้าสินค้าจากไทย ประเมินว่า Shopping Channel มีโอกาสในการขยายตัวสูงมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคอายุ 40 ปีขึ้นไป จึงคาดว่าจะได้รับประโยชน์จาก Aging Society ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวโน้มหลักของโลกในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี” นายสนธิรัตน์ กล่าว Tag สนธิรัตน์ – กระทรวงพาณิชย์ – ญี่ปุ่น – OTOP- Jupiter