“ประเทศจะหลุดรายได้ปานกลางต้องโตบนพื้นฐานเอสเอ็มอี” รศ.ดร.ประเสริฐ ปิ่นปฐมรัฐ อธิการบดีมทร. ธัญบุรี (ตอน 3)

by ThaiQuote, 4 สิงหาคม 2559

มาถึงอีกตัวอย่างที่ถือเป็นความภูมิใจ รศ.ดร.ประเสริฐกล่าวว่ากรณีของบริษัทซึ่งผลิตไวน์อยู่ภาคตะวันออก เป็นโครงการการลงทุนที่มีความรู้แต่ไม่ประสบความสำเร็จด้วยเหตุผลบางประการ พร้อมได้ระบุว่า เทคนิคของการบ่มไวน์มีระยะต่าง ๆต้องใช้อุณหภูมิต่างกัน เขาก็ใช้เป็นห้องใหญ่ซึ่งอุณหภูมิเดียวกันหมดจึงทำให้ค่าการลงทุนสูงรวมถึงเรื่องของค่าไฟฟ้า เราก็แนะนำว่าให้แบ่งห้องระยะบ่มไวน์ในช่วงเดือนแรก ในช่วงสามเดือนหลังช่วง Long team แล้วกั้นห้องตามอุณหภูมิ ปรากฏว่ากระแสไฟฟ้าลดไปประมาณ 30 % คุณภาพไวน์ก็ดีขึ้น องค์รวมของโรงงานก็ไปบุไปจัดใหม่ให้อุณหภูมิโรงงานทั่วไปที่อุณหภูมิลดลง

“สิ่งต่าง ๆเหล่านี้ล้วนเป็นวิชาพื้นฐานของอาจารย์ซึ่งอยู่ในวิศวกรรม เราก็เข้าไปช่วยผู้ประกอบการ ถ้าผู้ประกอบการไปพึ่งพาบริษัทก็ต้องสิ้นเปลืองคำแนะนำ เพราะฉะนั้นจากที่เราเข้าไปเจอทั้งหมดเราพบว่าส่วนใหญ่มีปัญหาในเรื่องระบบการผลิต โดยเฉพาะมาตรฐานต่าง ๆ  ประการที่สอง ขาดความรู้เกี่ยวกับการเข้าสู่มาตรฐานเพื่อที่จะได้ใบรับรอง เช่น อาหารก็อย. หรืออะไรต่าง ๆ ประการที่สาม เรื่องแล็ปพื้นฐานก็ต้องไปให้มหาวิทยาลัยที่ใกล้บ้านเขาช่วย ปัญหาเรื่องการเงินก็มีบ้าง เราก็ทำระบบให้อาจารย์คณะบริหารธุรกิจเข้าไปทำระบบบัญชี ระบบการเงิน วิเคราะห์การเงินการตลาดแล้วส่งให้เอสเอ็มอีแบงค์วิเคราะห์ ขณะนี้เขาอยู่ในเฟสสองก็คือว่าส่งไปให้เอสเอ็มอีแบงค์วิเคราะห์ เฟสสามเอสเอ็มอีแบงค์ไปวิเคราะห์แล้วอนุมัติเงินไป นี่ก็คือเรื่องของกลุ่ม Turn around

ผมเชื่อว่ารัฐบาลนี้เดินในทิศทางที่ถูกต้องครับ ก็คือว่าเอสเอ็มีอีของประเทศต้องยืนอยู่ให้ได้ ทั้งผู้ประกอบการเอสเอ็มอี กลุ่ม Start up ที่เกิดใหม่ และกลุ่มที่เกิดแล้วจะตายไม่ได้ ก็ให้เขายืดอยู่ได้เพื่อจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศที่จะใหญ่ขึ้นในอนาคต

 ถึงบรรทัดนี้คงทำให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น ถึงบทบาทของมหาวิทยาลัยที่มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยอธิการบดีมทร.ยังได้กล่าวต่อว่า อาจารย์ในมหาวิทยาลัยขณะนี้ไม่ได้ทำหน้าที่สอนนักศึกษาเพียงอย่างเดียว ต้องเอาองค์ความรู้แล้วการทำโปรเจคของเด็กหรืองานวิชาการงานวิจัยของครูไปสนับสนุนภาคการผลิต ประการต่อมาทำให้เอสเอ็มอีมีความใกล้ชิดกับอาจารย์ในมหาวิทยาลัย วันนี้มีอะไรเข้ามหาวิทยาลัยก่อน เพราะอาจารย์มหาวิทยาลัยแนะนำแล้วเขาชอบเนื่องจากอาจารย์มหาวิทยาลัยไม่ได้เป็นคู่แข่งในการค้า แล้วเรื่องต่อมาก็คือเขามีเพื่อนซึ่งเป็นธุรกิจซึ่งคล้ายกันหรือต่างกันมาให้คำปรึกษา ตรงนี้เป็นเรื่องซึ่งรัฐบาลขณะนี้น่าสนับสนุนแล้วเดินไปในระยะยาวให้ถูกต้อง

ประเด็นสุดท้ายก็คือว่า เครือข่ายออนไลน์ ถ้าให้เอสเอ็มอีในกลุ่ม Start up , Turn around   ไปทำออนไลน์มาร์เก็ตติ้งเป็นเรื่องยากมาก หรือเป็นต้นทุน แต่วันนี้รัฐบาลทำแล้วและมีการยกระดับในเรื่องออนไลน์พรีเมี่ยมที่จะขึ้นไปขายในการบินไทย ก็จะเป็นช่องทางตลาดแล้วก็รวมถึงการจะไปโรดโชว์ในต่างประเทศ มองว่าเศรษฐกิจซึ่งจะทำให้ประเทศหลุดจากรายได้ปานกลางนี่ต้องโตบนพื้นฐานของเอสเอ็มอี เอสเอ็มอีต้องโตบนพื้นฐานของวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และเอสเอ็มอีจะต้องพัฒนาโปรดักส์เขาบนพื้นฐานของงานวิจัย ขณะที่ภาควิชาการทุกภาคส่วนของรัฐและเอกชนนั้นจะต้องเข้าไปเสียบภายใต้รัฐ เอกชน ประชาชน ที่จะพูดต่อไปคือคำว่า ประชารัฐเพราะประชารัฐมีส่วนข้องเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศ และเอสเอ็มอีของประเทศเช่นเดียวกัน

แหมกำลังเพลินกับมุมมองของท่านอธิการบดีมทร.ที่ถ่ายทอดให้เห็นภาพอีกมิติของมหาวิทยาลัยที่มีต่อภาคเศรษฐกิจของประเทศ แต่พื้นที่หมดเสียก่อน อดใจไปอ่านต่อในครั้งหน้ากับตอนจบในส่วนของบทบาทของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรีกับพันธกิจในการผลิตบุคคลกรของชาติเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทยสู่ยุค 4.0  แล้วพบกัน 

ที่มา : thaiquote