จิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” โครงการในรัชกาลที่ 10

by ThaiQuote, 28 กรกฎาคม 2561

เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้  หน่วยราชการในพระองค์  ร่วมกับหน่วยราชการต่าง ๆ และประชาชนทุกหมู่เหล่าที่มีจิตอาสา   บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ต่าง ๆ  เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชน  ไม่ว่าจะเป็นปัญหาน้ำท่วมในเขตชุมชน  ปัญหาการจราจร และอื่น ๆ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงห่วงใยปัญหาน้ำท่วมและปัญหาการจราจรในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ   ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยทหารรักษาพระองค์ ร่วมกับข้าราชบริพารหน่วยราชการในพระองค์ และหน่วยงานราชการ รวมทั้งประชาชนจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ดำเนินการเก็บผักตบชวา วัชพืช ขยะมูลฝอยสิ่งปฏิกูล สิ่งกีดขวางทางน้ำ และทำการขุดลอกคูคลองระบายน้ำ รวมทั้งทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ วัด และตลาดในชุมชน โดยดำเนินการ งานโครงการจิตอาสา เริ่มต้นด้วย สัปดาห์จิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ระหว่างวันที่ 21 – 27 มิถุนายน 2560 ในพื้นที่ต่าง ๆ บริเวณรอบพระราชวังดุสิต   จิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม 2560 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครก่อน เพื่อเป็นโครงการฯ ที่เป็นแบบอย่างในการพัฒนาสภาพแวดล้อม และความเป็นอยู่ในชุมชนให้มีสภาพที่ดีขึ้น   ต่อมาได้จัดให้มีการลงทะเบียนจิตอาสาจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ  ณ อาคารรับรองพระราชวังดุสิต อาคาร 606 สำนักพระราชวัง สนามเสือป่า ระหว่างวันที่ 23 – 27 กรกฎาคม 2560  เวลา 08.00 – 15.00 น. โดยประชาชนจิตอาสาที่เข้าร่วมกิจกรรม “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” จะได้รับสิ่งของพระราชทานเพื่อเป็นกำลังใจให้ทำความดีต่อไป ได้แก่ หมวกพระราชทาน ผ้าพันคอประชาชนจิตอาสา พระราชทาน และสมุดบันทึกความดี ประชาชนจิตอาสา พระราชทาน หลังจากดำเนินการโครงการจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ในพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นช่วงแรกแล้ว จะขยายผลโครงการดังกล่าว ในช่วงที่ 2 ไปยังจังหวัดที่มีเขตพระราชฐาน และจะขยายผลการดำเนินการโครงการ ฯ ต่อไป ในช่วงที่ 3 ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ขณะนี้โครงการจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” ก็ยังเปิดรับสมัครสมาชิกจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม ศกนี้   จิตอาสาเฉพาะกิจ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชอนุสรณ์คำนึงถึง พระมหากรุณาธิคุณ ของพระบรมชนกนาถ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เป็นล้นเกล้า ล้นกระหม่อมอย่างหาที่สุดมิได้ ได้ทรงเล็งเห็น และทรงรับรู้จากพระราชหฤทัยของพระองค์ถึงพลังแห่งคุณค่าของความรัก ความศรัทธาเทิดทูนและความจงรักภักดี ที่ปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า น้อมเกล้าน้อมถวายแด่พระองค์ท่านซึ่งทรงประจักษ์ความต่อสายพระเนตรพระกรรณมาโดยตลอด ถึงพลังน้ำใจ พลังความรัก อันประเสริฐสุดของท่านทั้งหลาย นับตั้งแต่วันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต ตราบจนทุกวันนี้   และเพื่อทรงสนองตอบต่อความรัก และน้ำใจอันประเสริฐสุดของท่านทั้งหลาย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงได้พระราชทานพระมหากรุณาธิคุณให้ประชาชนทุกภาคส่วน ได้มีส่วนร่วมถวายความอาลัยรัก น้อมส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในห้วงเดือนตุลาคม ศกนี้ และเพื่อเป็นการสานต่อพระราชดำริโครงการจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” ซึ่งเป็นโครงการทำความดีร่วมกับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้ปฏิบัติภารกิจมาโดยตลอด เป็นที่ประจักษ์แกสายตาของท่านทั้งหลายอยู่แล้วนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงได้พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดตั้ง “จิตอาสาเฉพาะกิจ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ”ขึ้น เพื่อเป็นการรวมพลังความรักอันมีค่า รวมพลังน้ำใจ ของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าที่จะน้อมถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนเสด็จสู่สวรรคาลัย   จิตอาสาถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อีกหนึ่งภารกิจร่วมฟื้นฟูถ้ำหลวง จากภาวะความบอบช้ำของพื้นที่ถ้ำหลวงที่ผ่านการปฏิบัติการช่วยเหลือ “13 หมูป่า” เป็นเวลากว่า 10 วัน หลังจากภารกิจสำเร็จจนเมื่อวันที่ 14 ก.ค. เวลา 09.00 น. ที่บริเวณวนอุทยานถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายพลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นประธานเปิดกิจกรรมอาสาโครงการพระราชทาน "เราทำความ ดี ด้วยหัวใจกิจกรรมฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่วนอุทยานถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน โดยมีประชาชนจิตอาสาร่วมกิจกรรมกว่า 4 พันคน เพื่อร่วมกันปรับปรุง ฟื้นฟู สภาพภูมิทัศน์และระบบนิเวศ ของถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน และบริเวณใกล้เคียง เพื่อเป็นการพัฒนาให้ถ้ำหลวงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและปลอดภัยสำหรับทุกคน   นอกจากนี้โครงการจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ”ได้ขยายขอบข่ายการทำงานไปยังจังหวัด ชุมชนต่างๆ ดำเนินภารกิจเพื่อเป็นการดูแลชุมชน บำบัดทุกข์และบำรุงสุข ทำงานด้านสาธารณประโยชน์พัฒนาสภาพแวดล้อม และความเป็นอยู่ในชุมชนให้มีสภาพที่ดีขึ้น และนับวันกลุ่มคนเหล่านี้ก็มีความเข้มแข็งและมีพลังในการช่วยเหลือดูแลสังคม สมดังปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10