เดิมพันครั้งสำคัญ! สามมิตร-เพื่อไทย-ประชาธิปัตย์

by ThaiQuote, 31 กรกฎาคม 2561

การเมืองไทยเวลานี้กำลังเดินหน้า อย่างมีนัยยะสำคัญ เป็น"นัยยะ"สำคัญอย่างยิ่ง ต่อการเข้าสู่โหมด การเลือกตั้งที่เริ่มปรากฏให้เห็นเด่นชัด ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายเกี่ยวกับ"กฎหมาย"การเลือกตั้ง ทั้งร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. และ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ที่อยู่ในระหว่างกระบวนการในการทำให้มีผลบังคับใช้ การสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ลงมติเลือกมาแล้ว 5 คน จากทั้งหมด 7 คน เช่นเดียวกับท่าทีของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลที่ ประกาศเดินหน้า"โรดแมป" เต็มลูกสูบ เมื่อสัญญาณ การเลือกตั้งชัดเจนขนาดนี้ จึงมีผลให้การเมืองเกิดความเคลื่อนไหวตามมามากมาย โดยเฉพาะกระบวนการสนับสนุนให้ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้า คสช. กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้วมีกลุ่มการเมือง 3 กลุ่มที่อยู่เบื้องหลังของการยกมือชู พล.อ.ประยุทธ์ ในครั้งนี้ ชัดเจนที่สุด คือ "กลุ่มสามมิตร" นำโดย "สมศักดิ์ เทพสุทิน" อดีตแกนนำ พรรคมัชฌิมาธิปไตย , "สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ" อดีตเลขาธิการพรรคไทยรักไทย ทั้งสองคนนี้เคยเป็นกำลังสำคัญของพรรคไทยรักไทย ที่ทำให้"ทักษิณ ชินวัตร" ผงาดอยู่บนเก้าอี้ นายกรัฐมนตรี เป็นเวลา 4 ปี เต็ม ที่สำคัญ เป็นการดำรง คงอยู่ บน"เก้าอี้" นายกรัฐมนตรี จนครบอายุของสภาผู้แทนราษฎร อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน การเคยทำงานกับ"ทักษิณ"มาก่อน ย่อมรู้ไส้รู้พุงพรรคเพื่อไทย และอ่านใจของนักเลือกตั้งได้อย่างง่ายดาย จึงไม่แปลกที่ระยะหลังจะมีข่าวเป็นระยะว่าอดีต สส.พรรคเพื่อไทย กำลังทยอยออกจากพรรค มาเข้ากับกลุ่มสามมิตร โมเดลนี้เหมือนกับเมื่อครั้ง"สมศักดิ์"ได้สร้างวังน้ำยมภายใน พรรคไทยรักไทย ด้วยการเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด จนวังน้ำยมกลายเป็นก๊วนที่มี อำนาจต่อรองกับตระกูล"ชินวัตร"ที่คุมพรรคไทยรักไทยเวลานั้น ถัดจากกลุ่ม"สามมิตร" ก็คือ "กลุ่มบ้านริมน้ำ" นำโดย "สุชาติ ตันเจริญ" เป็นกลุ่มการเมืองที่ แนบแน่นกับ "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ เคยอยู่ไทยรักไทยมาด้วยกัน ขุมกำลังของกลุ่มนี้น่าจับตามอง "สุชาติ" เป็นนักการเมืองมากบารมี เคยเป็นรัฐมนตรี และ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร มีนักการเมืองท้องถิ่น สวามิภักดิ์ จำนวนมาก กลุ่มสุดท้าย "กลุ่มเพื่อนสมคิด" คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกรัฐมนตรี ที่คุมนโยบาย"ด้านเศรษฐกิจ" มีสายสัมพันธ์ ลึกซึ้ง รอบด้าน กับกลุ่มทุนในแวดวงเศรษฐกิจ ทั้งในและต่างประเทศ ภาพรวมของทั้ง 3 กลุ่ม ด้านหนึ่งดูเหมือนจะแยกกันเดินหมากทางการเมือง แต่ลึกๆ แล้วต่างมีเป้าประสงค์เดียวกัน คือ สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง พร้อมสร้างขั้วอำนาจการเมืองใหม่เพื่อมาถ่วงดุลพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นขั้วอำนาจการเมืองที่ทรงอิทธิพลมาหลายทศวรรษ ต้องไม่ลืมว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นนั้นสำคัญกว่าครั้งไหนๆ เพราะเป็นการเดิมพันของทุกฝ่าย หาก คสช.สามารถกลับมาเป็นรัฐบาลได้อีกครั้ง การเมืองจะเกิดการเปลี่ยนขั้ว ผลกระทบด้านลบย่อมจะมาถึงสองพรรคการเมืองใหญ่ คือ เพื่อไทย และ ประชาธิปัตย์ แต่กลับกันถ้า กลุ่มการเมือง ทั้ง 3 กลุ่ม ที่ สนับสนุน คสช. พ่ายแพ้ "พล.อ.ประยุทธ์" ก็คงต้องพับฐานกลับไป ดังนั้น ศึกเลือกตั้ง ครั้งนี้ ถือ เป็น เดิมพัน ครั้งสำคัญอย่างยิ่ง ทีเดียว