เริ่มกันที่เหตุการณ์สังหารโหดในห้องพักโรงแรมย่านกลางเมือง กรุงเทพมหานคร คนที่ตกเป็นเหยื่อ ไฮโซเชอรี่ น.ส. ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์  เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์  วัย 39 ปี ญาตินักแสดงหนุ่มชื่อดัง อาทิตย์ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์   เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 ก.ค. หญิงสาวเข้าไปพักกับ นายโก้ นายอัศยา ชัยภา อายุ 33 ปี มีคนพบศพเธอ ถูกตีด้วยไม้เบสบอล โดยนายโก้ ได้ ออกจากโรงแรมไปคนเดียว พร้อมกับรถเบนซ์ของผู้ตาย แม่บ้านได้ยินเสียงทะเลาะกัน เรื่องการทวงเงิน ภาพวงจรปิดปรากฏฎนายโก้โผลที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกัมพูชา ทางผบช. น ขีดเส้น 7 วัน ต้องได้ตัวมาลงโทษ [caption id="attachment_39441" align="alignnone" width="600"] ฮโซเชอรี่ น.ส. ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์[/caption] ไฮโซเชอรี่ น.ส. ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์  จากชีวิตที่ไม่ได้ร่ำรวย ได้สร้างฐานะขึ้นมาภายในไม่กี่ปี จนมีทรัพย์สิน เป็น 100 ล้าน  เธอเรียนจบจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย  คณะบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ จากนั้น ได้บินไปศึกษาต่อด้านภาษาที่สหรัฐอเมริกา เริ่มต้นธุรกิจที่สหรัฐฯด้วยการเปิดร้านอาหาร  ชื่อว่า ไทยคาเฟ่ ธุรกิจร้านอาหารของ เชอรี่ ได้รับการชื่นชมมาก เพราะใช้เวลาเพียงแค่ 1 ปีครึ่ง ก็ประสบความสำเร็จ ด้วยวัยเพียง 23 ปีเท่านั้น เธอ เป็นที่โด่งดังในหมู่ร้านอาหารด้วยกันเป็นอย่างมาก ก่อนจะขายกิจการทิ้งกลับมาประเทศไทย และหันมาจับธุรกิจอสังหริมทรัพย์แทน เป็นเจ้าของปั๊มน้ำมัน 3 แห่ง มูลค่าหลายร้อยล้าน คดีที่ 2 การตายของน้องหญิง การเสียชีวิตของ น้องหญิง น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช วัยอายุ 19 ปี เกิดขึ้นตั้งแต่ 19 กรกฎาคม แต่คดีเป็นไปอย่างเงียบๆ เธอถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลด้วยสาเหตุตกจากรถเทรลเลอร์ ในพื้นสภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา  ที่มี นายอ๊อฟ นายสุรพล ดาราคำ  เป็นคนขับ คดีเป็นที่สนใจ หลังจากครอบครัวได้แห่โลงศพมายังกองปราบปราม เนื่องจากเห็นว่า การทำงานของตำรยจ สภ.บางปะอิน เป็นไปด้วยความล่าช้า และหวั่นว่า จะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะมีแนวโน้วว่า จะมีการสรุปคดีว่า ตกรถเทรลเลอร์เสียชีวิต [caption id="attachment_39442" align="alignnone" width="696"] น้องหญิง น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช[/caption] นำไปสู่การย้าย ตำรวจระดับสูง 3 โรงพัก และมีการแฉว่า มีการจ่ายเงิน 300,000 บาทให้ปิดคดีว่า เป็นอุบัติเหตุ กองปราบปรามได้เข้ามาดูแลคดี พบว่า มีการกระทำเป็นขบวนการ มี น.ส.สิรินาถ รอบรัมย์ หรือ เป็ด เข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นนางนกต่อ ชักนำน้องหญิงจากสถานบันเทิงที่เธอไปเที่ยวมายังรถเทรลเลอร์เพื่อขายบริการ แต่น้องหญิงไม่ยอม จึงถูกสังหาร คลิปเสียที่เธอส่งให้เพื่อนเป็นหลักฐานยืนยัน การตายของน้องหญิง นำไปสู่การสอบสวนเพื่อทลายแก๊งค้ากามส่งคนขับรถเทรลเลอร์เลอร์ย่านพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ส่วนคดีที่ครึกโครมที่สุด การเสียชีวิตของ’ฟอส-สปาย’ นายอนันตชัย หรือ ฟอส อายุ 20 ปี และ น.ส.ปวีณา หรือ สปาย อายุ 20 ปี ชาวอำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 ก.ค  ณ ลานจอดรถ วัดเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี ‘สปาย’ เป็นหญิงสาวหน้าตาดี ขึ้นเวทีประกวดนางงามหลายครั้ง เริ่มจากนางงามท่าคันโท รณรงค์ไม่กินปลาดิบ จากนั้นเดินสายไปประกวดเวทีต่างๆ แต่เนื่องจากเป็นคนตัวเล็กจึงไม่ชนะการประกวด ได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฎ แต่เรียนได้เทอมเดียว เมื่อได้รับการชักชวน จึงตัดสินใจลาออกไปทำงานที่ภูเก็ต ทุกเดือนจะส่งเงินให้แม่ 20,000 บาท นับเป็นเด็กกตัญญูและเป็นความหวังของครอบครัว สปาย เจอกับเสี่ยอ้วนนายปัญญา  ยิ่งดัง อายุ 39 ปี เจ้าของสถานบันเทิงที่เธอทำงานอยู่ เสี่ยวอ้วนหลงรักเธอ แต่เธอไม่ชอบ เนื่องจากมีอารมณ์รุนแรง จึงได้หนีออกมา กับ ฟอส เพื่อนรักที่รู้จักมาตั้งแต่เด็ก เธอและฟอส ถูกยิงที่ลานจอดรถวัดเขาชีจรรย์ ดเวยฝีมือเสี่ยอ้วน ที่โกรธแค้น จากปัญหาชู้สาวและเงิน 1 ล้านบาท จบชีวิตสาวสวย ที่เป็นความหวังของครอบครัวอย่างสะเทือนใจ การเสียชีวิตของสาวสวย 3 คน ด้วยเหตุจูงใจที่แตกต่างกัน แต่เป็นอุทาหรณ์ว่า การใช้ชีวิตจะต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะสาวสวย มีอันตรายทุกย่างก้าวทีเดียว