อย่าไปลาดพร้าว! เจ็บปวดตรงรองผบช.น. ‘บอกให้ทำใจ’

by ThaiQuote, 6 สิงหาคม 2561

ลำสาลี ซึ่งปกติ สาหัวอยู่แล้ว กลายเป็นแยก ‘ลำสาหัส’ ที่สาหัสหนักหน่วงรุนแรง หลังการก่อสร้างรถไฟฟ้า 2 สายมาบรรจบกัน คือ สายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรงที่การก่อสร้างได้ขยายไปยังถนนศรีนครินทร์ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่าน ขณะที่การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ที่ได้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต้เมื่อต้นปี 2561 ลำสาลี-บางกะปิ เป็นเส้นทางที่คนจากฝั่งตะวันออกของกรุเทพฯ จะต้องผ่านเพื่อเข้าเมือง มาจากสุขาภิบาล 1-2 และ 3 ส่วนหนึ่งจะไปยังเส้นลาดพร้าว แต่ส่วนใหญ่จะผ่านถนนรามคำแหง เพื่อเข้าเส้นพระราม 9 หรือทะลุเข้าพระโขนงหรือออกเส้นเพชรบุรี เป็นคอขวดที่ทำการจราจรติดหนัก แม้ไม่มีการสร้างรถไฟฟ้าก็ตาม ซึ่งเส้นทางรถไฟฟ้า 2 เส้นทางผ่านใจกลางที่เป็นเส้นทางที่รถติดหนัก สายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - บางกะปิ - มีนบุรี ทั้งหมดอยู่ในแผนเร่งรัด 4 ปีของรัฐบาล โดยจะเริ่มก่อสร้างเส้นทาง มีนบุรี - บางกะปิ - ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้างโครงการในส่วนตะวันออก ช่วงสัมมากร - มีนบุรี ที่เป็นเส้นทางยกระดับ และอยู่ในระหว่างการออกแบบการก่อสร้างเส้นทางใต้ดิน เริ่มก่อสร้างต้นปี 2561  คาดว่า จะเปิดใช้งานได้อย่างเป็นทางการใน พ.ศ. 2566 หรืออีก 5 ปีครึ่งนับจากนี้ ส่วนสายสีเหลือง 51,810 ล้านบาท รถไฟฟ้าสีเหลืองเป็น รถไฟฟ้ารางเดี่ยว โครงสร้างยกระดับ ระยะทางรวมประมาณ 32 กิโลเมตร มีจุดเริ่มต้นบริเวณสี่แยกรัชโยธิน และสิ้นสุดโครงการที่แยกสำโรงในเขตจังหวัดสมุทรปราการ ผ่านเส้นทางสำคัญที่เป็นหัวใจของคนกรุงเทพฯฝั่งตะวันออกเข้าเมือง คือ  รัชดาฯ-ลาดพร้าว-ศรีนครินทร์ จะแล้วเสร็จในปี 2563 ทั้งหมด มากระจุกตัวอยู่ที่แยกลำสาลี ถนนลาดพร้าว รามคำแหง  ที่ในช่วงการก่อสร้างจะมีการบีบถนนเหลือ 1-2 เลน ส่งผลให้รถติดหนักหน่วง ในเกือบทุกเส้นทาง ในขณะที่คนที่รับผิดชอบแก้ปัญหาการจรจาจรา พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.จราจร)  บอกให้ทำใจ เนื่องจากไม่รู้จะแก้ปัญหาอย่างไร ฟังแล้วก็ท้อใจ ในเมื่อคนแก้ปัญหายังไม่มีทางออก ปล่อยให้ชาวบ้านรับชะตากรรม จึงเป็นที่มาของ วลีอย่าไปลาดพร้าว