ในแผนดำเนินการดังกล่าวจะมีการขับเคลื่อนการทำงานแต่ละด้าน ถือเป็นโครงการ Quick win เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ ทั้งนี้เพื่อกำหนดเป้าหมายให้ไทยเป็นผู้นำด้าน ไมซ์ในภูมิภาคอาเซียน เพราะปีที่ผ่านมาไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการจัดประชุมโดยการจัดอันดับของ ICCA เป็นอันดับ 3 ของอาเซียนรองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งสามารถขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ได้ถ้ามีการจัดระบบการบริหารจัดการรวมทั้งจัดสิ่งอำนวยความสะดวกในการจัดประชุม ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บภาษีและอากรนำเข้าอุปกรณ์จัดงานอย่างมีมาตรฐาน และเป็นระบบมากขึ้น

          ขณะที่การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ต้องการการสนับสนุนจากรัฐบาลให้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ ส่งเสริมให้เป็นแบรนด์ประเทศไทยด้วยการจัดประจำต่อเนื่องทุกปี เช่นงานเทศกาลมวยไทยโลกหรือดึงการแข่งขันกีฬาระดับเวิด์ลคลาสเข้ามาจัดในไทย เพื่อส่งเสริมให้เกิดสปอร์ตทัวริสซึ่มตามนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อีกทั้งยังเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอีกด้วย

          พร้อมกับส่งเสริมกระบวนการท่องเที่ยวโดยชุมชนให้เป็นเครื่องมือในการมีส่วนร่วมภาคประชารัฐ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่การท่องเที่ยวเชิงเกษตร การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ การท่องเที่ยวชุมชน เป็นต้น รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มมุสลิมด้วยการเพิ่มเติมการจัดบริการสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มมุสลิมโดยเฉพาะ เช่นสถานที่ละหมาด ร้านอาหาร ห้องน้ำที่ถูกต้องตามหลักศาสนาครอบคลุมทุกสถานที่ ซึ่งทางกระทรวงฯได้เร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น สำนักจุฬาราชมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เพื่อผลักดันให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมให้ได้เร็วที่สุด

                นอกจากนี้ ยังมีเทรนด์ของการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงลึก ในเมืองเล็กที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายผ่านการพักแบบระยะยาว เพื่อให้ได้สัมผัสถึงการท่องเที่ยวเชิงลึกในเมืองที่มีความแตกต่างจากเมืองท่องเที่ยวทั่วไป