นายสมเกียรติ ประจำวงศ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำปัจจุบันมี 8 เขื่อนใหญ่ที่ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง ได้แก่ เขื่อนน้ำพุง เขื่อนลำปาว เขื่อนจุฬาภรณ์ เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนปราณบุรี โดยมี เขื่อนที่มีปริมาณน้ำเกินกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ ได้แก่เขื่อนน้ำอูน และเขื่อนแก่งกระจาน ซึ่ง สทนช. ได้กำกับติดตามให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม รวมถึงการช่วยเหลือพื้นที่ท้ายน้ำ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นศูนย์กลางบูรณาการทุกหน่วยงาน แจ้งเตือนและช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบในระดับพื้นที่   ส่วนแม่น้ำเพชรบุรี ที่อำเภอเมือง มีแนวโน้มลดลง ปัจจุบันระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 69 เซนติเมตร เนื่องจากมีการตัดยอดน้ำเข้าระบบชลประทานมากขึ้น ประกอบกับ มีน้ำที่ไหลจากเขื่อนแก่งกระจานผ่านทางระบายน้ำล้นแนวโน้มลดลง ส่วนสภาพน้ำในเขื่อนแก่งกระจานแนวโน้มปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างลดลง แต่จากการคาดการณ์สภาพภูมิอากาศ อาจมีฝนตกมากขึ้น ส่งผลให้น้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า ซึ่ง สทนช. ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังสถานการณ์รวมถึงการเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ปริมาณน้ำฝนสะสม 7 วัน ที่เกิน 150 มิลลิเมตร มีพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่า ไหลหลาก น้ำเอ่อล้นตลิ่งและดินโคลนถล่มเป็นพิเศษ 8 จังหวัด คือ สกลนคร มุกดาหาร ปราจีนบุรี ตราด ระนอง พังงา สุราษฎร์ธานี ซึ่ง สทนช.เตรียมออกประกาศแจ้งเตือนพื้นที่ดังกล่าวและทำแผนป้องกัน   "ในเดือนกันยายนเป็นต้นไป ที่เข้าสู่ช่วงฤดูฝนอย่างเต็มตัว ก็อาจจะมีฝนตกเพิ่มขึ้น และอาจทำให้มีปริมาณน้ำมากขึ้น ในเขื่อนต่างๆ จึงต้องมีการระบายน้ำและมีแผนพร่องน้ำตั้งแต่ต้นฤดูกาล"นายสมเกียรติ ระบุ