นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า สศช.เตรียมเสนอแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) เหมือนกับแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ให้ที่ประชุม ครม.นอกสถานที่ จังหวัดระนอง ชุมพร พิจารณา เพื่อต่อยอดศักยภาพเศรษฐกิจเดิมที่มีอยู่ แตกต่างจาก EEC เป็นการพัฒนาอุตสหกรรมให้เกิดขึ้นใหม่ ขณะที่มีเป้าหมายต่อยอดจากศักยภาพเดิม การขยายเส้นทางรถไฟทางคู่ ชุมพร-ระนอง เพิ่มการเดินทางเชื่อมต่อไปยังเมียนมาร์ พัฒนาท่าเรือน้ำลึกที่มีอยู่ใช้ในเชิงพาณิชย์ได้จริง และมุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอีกหลายด้าน การพัฒนาต่อยอดผ่านนวัตกรรมการนำวัตถุดิบท้องถิ่น เช่น น้ำมันปาล์ม สกัดวิตามิน E การสร้างฉนวนความร้อน เพราะน้ำมันปาล์มผลิตได้ถึง 12 ล้านตันต่อปีของภาคใต้ รวมถึงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทั้งอ่าวไทยและอันดามัน การหาจุดเด่นมาเป็นจุดขาย อย่างเช่นพัทลุง เน้นส่งเสริมวัฒนธรรมมโนราห์ พื้นที่ป่าชายเลนอันสมบูรณ์ จนได้รับการรองรับจาก UNESCO เตรียมหารือกับบีโอไอเพื่อให้สิทธิ์ประโยชน์ดึงดูการลงทุนตามพื้นที่ ตามศักยภาพ เพื่อให้การพัฒนาเศรษฐกิจแต่ละพื้นที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นจะส่งเสริมภาคอีนสานให้มีศักยภาพพัฒนาอุตสากรรมราง เพราะระบบรางมีทั้งตู้สินค้า อาณัตสัญญาณ การขนส่งสินค้าจะเชื่อมต่อกับเพื่อนบ้านเพิ่มอีกอีกจำนวนมาก เมื่อทุกภาคของไทยมีจุดเด่นสำคัญผลักดันเศรษฐกิจ แม้เผชิญปัจจัยลบเข้ามากระทบหลายด้าน จะทำให้แต่ละภาคมาช่วยรองรับปัญหาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจทดแทนกันได้ ขณะที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมตรีเตรียมแก้ไขกฎหมาย ศสช.เพิ่มเติม เพื่อให้ขยายแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม เพิ่มจาก 4 ปี เป็น 5 ปี สอดคล้องกับยุทศาสตร์พัฒนาประเทศ หวังนำแผนแม่บท 37 เรื่องมาขับเคลื่อน 15 กันยายนนี้เตรียมให้คณะทำงานด้านการปฏิรูปสรุปแนวทางปฏิบัติ นำอุปสรรคปัญหา การจัดสรรงบประมาณขับเคลื่อนแผนแม่บท ทั้งด้านต่างๆ อาทิด้านเกษตร อุตสาหกรรม พาณชิย์ สิ่งแวดล้อม เสนอต่อเวทีประชุมใหญ่ประจำปี เกี่ยวกับการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ปี 61-65 เพื่อสร้างอนาคตประเทศ โดยเฉพาะการดูแลปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เนื่องจากข้อมูลการสำรวจของคลังและกระทรวงพัฒนาสังคม มีรายย่อย 1. 2 ล้านรายเข้าข่ายได้รับการดูแล เพื่อออกมาตรการให้ตรงกับพื้นที่และความต้องการของรายย่อย เพราะแต่ละพื้นที่จะต้องการความช่วยเลหือไม่เหมือนกัน เช่น ด้านสุขภาพ ที่อยู่อาศัย รายได้ นายกอบศักดิ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เตรียมเสนอตั้งคณะกรรมการลดความเหลื่อมล้ำทางสัง เพื่อพิจารณาจัดสรรงบประมาณ และมาตรการด้านยากจนให้สอดคล้องกัน ยุทศาสตร์เดียวกันไม่ซ้ำซ้อนหลายกระทรวง เตรียมเสนอรัฐบาลพิจารณาใช้งบประมาณขับเคลื่อนในปี 63.