โดยในการพิจารณาการปล่อยสินเชื่อในระยะต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินเชื่อโครงการขนาดใหญ่ขอให้คำนึงถึงการช่วยดูแลปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และปัญหาคอร์รัปชันของโครงการมากขึ้น และหากพบว่ามีปัญหาดังกล่าวอาจพิจารณาให้ละเอียดถึงความเสี่ยงต่างๆ ว่าควรจะให้สินเชื่อหรือไม่ หากพบว่ามีปัญหาสิ่งแวดล้อมหรือคอร์รัปชัน และถูกยกเลิกโครงการภายหลัง นอกเหนือจากไม่เป็นผลต่อประเทศแล้ว ยังกระทบต่อสถาบันการเงินด้วย   นอกจากนั้นยังขอให้สถาบันการเงินหาแนวทางการปล่อยสินเชื่อ หรือการให้บริการทางการเงินที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับการผลิตเพิ่มขึ้นด้วย ขณะนี้แนวทางดังกล่าว เป็นเพียงการขอความร่วมมือจากธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน และมีความเป็นไปได้ที่ ธปท.จะออกกฎเกณฑ์การกำกับดูแลเพิ่มเติมในอนาคต   นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ภาคการเงินการธนาคารมีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่สังคมได้ เพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อให้สังคมไทยพัฒนาอย่างยั่งยืน ลดปัญหาการจัดสรรทรัพยากรไม่เหมาะสม ลดพฤติกรรมฉ้อฉลคอร์รัปชัน และร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อสถาบันการเงิน ที่นำการบริหารธุรกิจตามหลักความยั่งยืนนี้มาใช้อีกด้วย.