นายสมศักดิ์ ห่มม่วง รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังเป็นประธานประชุมคณะทำงานการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการจราจรด้านการขนส่งสาธารณะของกระทรวงคมนาคมว่า ที่ประชุมได้หารือแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจรให้กับผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม(ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) รถไฟฟ้าสายสีเหลือง(ลาดพร้าว-สำโรง และรถไฟฟ้าสายสีชมพู(แคราย-มีนบุรี) พบว่าพื้นที่วิกฤติที่เกิดปัญหาจราจรติดขัดอย่างหนักตามแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าแต่ละสายมีดังนี้ สายสีส้ม ได้แก่ บริเวณหน้าสนามราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก ถนนรามคำแหง และแยกบ้านม้า   สายสีเหลือง บริเวณสวนหลวง ถนนพัฒนาการ และแยกลำสาสีส่วนสายสีชมพู บริเวณหน้าวัดพระศรีมหาธาตุ มหาวิทยาลัยราชภัพระนคร ถนนแจ้งวัฒนะ แยกลาดปลาเค้า ปากเกร็ดและติวานนท์   ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าในการแก้ปัญหาระยะเร่งด่วนนั้น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ(ขสมก.)ควรจัดบริการเส้นทางพิเศษให้รถเมล์วิ่งขึ้นทางด่วนเพื่อหลบพื้นที่จราจรวิกฤติในพื้นราบในเส้นทางหลัก เช่น สายสีเหลืองบริการในเส้นทางมีนบุรี-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิสายสีชมพูบริการในเส้นทางปากเกร็ด-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเมืองทอง-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิส่วนสายสีส้มบริการในเส้นทางจตุจักร-แยกพัฒนาการ เป็นต้น   นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบในหลักการว่าในทุกเส้นทางที่มีการก่อสร้างรถไฟฟ้าจะต้องมีรถโดยสารสาธารณะวิ่งให้บริการ จึงมอบหมายการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)ไปประชุมหารือกรมการขนส่งทางบก(ขบ.)และ ขสมก.จัดรถ Shuttle Bus วิ่งให้บริการในเส้นทางเสริมที่ไม่มีรถเมล์ประจำทางวิ่งเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนเช่น เส้นทางจากสนามราชมังคลากีฬาสถาน-รถฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์สถานีหัวหมากหรือจากรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-วัดเทพลีลา เป็นต้น   ขณะเดียวกันกรมเจ้าท่าได้ประสานบริษัทครอบครัวขนส่ง(2002)จำกัด ผู้ให้บริการการเดินเรือคลองแสนแสบ ให้จัดบริการเรือโดยสารเที่ยวพิเศษเป็นExpress Boat หรือเรือด่วนพิเศษไม่ต้องจอดทุกท่าเรือ เช่นจากท่าเรือวัดศรีบุญเรืองถึงท่าเรือประตูน้ำ มีทั้งหมด 23 ท่าเรือ อาจจอดเพียง 3ท่าเท่านั้น โดยเลือกจอดในท่าเรือที่เชื่อมต่อรถไฟฟ้าได้ เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้โดยสารที่มีความจำเป็นเร่งด่วนได้ใช้บริการอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ที่ประชุมจะนำเสนอแนวทางแก้ปัญหาจราจรระยะเร่งด่วนในส่วนของบริการขนส่งสาธารณะนำเสนอที่ประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งมี พล.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พิจารณาในวันที่ 15 ส.ค.นี้